Tag Archives: healthfocusclinic

“โลหิตจาง” ภาวะอันตรายจากเม็ดเลือดแดงต่ำ  เป็นแล้วต้องระวัง!

โลหิตจาง หรือ “Anemia” เป็นภาวะที่เกิดจากการที่ร่างกายมีจำนวนเม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติ ซึ่งเม็ดเลือดแดงมีหน้าที่ในการนำออกซิเจนไปเลี้ยงทั่วร่างกายค่ะ เมื่อร่างกายมีปริมาณเม็ดเลือดแดงไม่เพียงพอ จะทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น รู้สึกเหนื่อยง่าย ซีด อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ และอาจหมดสติได้ หากอาการรุนแรงอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งเป็นอันตรายที่ไม่ควรมองข้ามนะคะ สาเหตุของภาวะโลหิตจาง ภาวะโลหิตจางอาจเกิดจากหลายปัจจัย แต่สาเหตุหลักมักเกี่ยวข้องกับการขาดสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงค่ะ เช่น: การขาดธาตุเหล็ก การขาดวิตามินบี 12 การขาดโฟลิก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น โรคประจำตัวบางประเภท การเสียเลือดเรื้อรัง หรือการสร้างเม็ดเลือดแดงผิดปกติในไขกระดูกค่ะ ซึ่งการวินิจฉัยและรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดภาวะโลหิตจางในแต่ละบุคคล ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กเกิดขึ้นเมื่อร่างกายขาดธาตุเหล็กที่จำเป็นในการสร้างเม็ดเลือดแดงค่ะ กลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดภาวะนี้ ได้แก่: ทารกแรกเกิดและเด็กที่กินอาหารไม่เพียงพอ หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร วัยรุ่นที่เริ่มมีประจำเดือน ผู้สูงอายุ อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ อ่อนเพลีย เปลือกตาขาวซีด เล็บเปราะ และการรับรู้ทางสมองลดลงค่ะ เม็ดเลือดแดงจะมีขนาดเล็กลงและเมื่อเจาะเลือดตรวจจะพบว่ามีลักษณะเฉพาะของเม็ดเลือดแดงที่เรียกว่า “Pencil Cell” หรือเม็ดเลือดแดงที่มีรูปร่างเรียวยาวคล้ายดินสอ วิธีป้องกันภาวะขาดธาตุเหล็ก เพื่อป้องกันภาวะนี้ ควรรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงค่ะ เช่น: เนื้อสัตว์และเครื่องในสัตว์ เช่น ตับและไต ไข่แดง […]

💡นี่คือเหตุผล…ว่าทำไมเราควรลด “โซเดียม” 🧂

โซเดียม (Sodium) เป็นเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่การบริโภคโซเดียมมากเกินไปสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้อย่างรุนแรง! ดังนั้น เราจึงควรระวังการบริโภคโซเดียมให้พอเหมาะ วันนี้เราจะมาดูเหตุผลที่สำคัญกันค่ะ ว่าทำไมเราจึงควรลดโซเดียมในอาหาร! ผลกระทบระยะสั้น 1. กระหายน้ำมากขึ้น : การบริโภคโซเดียมมากเกินไปทำให้ร่างกายต้องการน้ำมากขึ้น เพื่อขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกาย ซึ่งอาจทำให้รู้สึกกระหายน้ำตลอดเวลา และอาจนำไปสู่การดื่มน้ำมากเกินความจำเป็น ทำให้ไตทำงานหนักขึ้นในการขับน้ำส่วนเกินออก 2. ความดันโลหิตสูงขึ้น : โซเดียมมีผลทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น การบริโภคโซเดียมมากเกินไปทำให้หลอดเลือดหดตัว เพิ่มแรงดันในหลอดเลือด และอาจนำไปสู่ภาวะความดันโลหิตสูงเรื้อรังได้ 3. บวมน้ำ : การสะสมของโซเดียมในร่างกายทำให้ร่างกายเก็บกักน้ำ ทำให้เกิดอาการบวม โดยเฉพาะที่ใบหน้า มือ และเท้า อาจทำให้รู้สึกอึดอัดและไม่สบายตัว 4. ท้องอืดง่ายขึ้น : โซเดียมที่มากเกินไปทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ ทำให้ท้องอืด มีแก๊สในกระเพาะ และรู้สึกไม่สบายท้อง 5. เหนื่อยง่าย : โซเดียมมากเกินไปทำให้ร่างกายทำงานหนักขึ้นในการขับโซเดียมออก ส่งผลให้รู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีแรง และสมรรถภาพในการทำกิจกรรมลดลง ผลกระทบระยะยาว 1. ภาวะอ้วน : การบริโภคโซเดียมมากเกินไปสามารถทำให้เราอยากอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่มีเกลือสูง ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและนำไปสู่ภาวะอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดโรคเรื้อรัง 2. โรคหัวใจ […]

รู้หรือไม่? คอเลสเตอรอลสูง ไม่ได้เกิดจากอาหารเท่านั้น

หลายคนคิดว่า “ไขมันในเลือดสูง” มาจากการกินอาหารที่มีไขมันเยอะ เช่น หมูสามชั้นหรือของทอด แต่คุณรู้ไหมว่า ไขมันในร่างกายส่วนใหญ่มาจาก “ตัวเราเอง” ต่างหาก! คอเลสเตอรอลในร่างกายมาจากไหน      80% ร่างกายสร้างขึ้นเอง     20% มาจากอาหารที่เรากิน ถึงแม้การคุมอาหารจะช่วยได้บ้าง แต่ก็ลดไขมันได้เพียง 10-15% เท่านั้น เพราะร่างกายสร้างคอเลสเตอรอลเองเป็นหลัก ตัวอย่างที่ชัดเจนคือดูได้จากการใช้ยาลดคอเลสเตอรอล      ยาที่ช่วยยับยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอล จากทางเดินอาหาร สามารถลดคอเลสเตอรอลได้ประมาณ 10-15% เท่านั้น     ยาที่ลดการสร้างคอเลสเตอรอลจากร่างกาย สามารถลดคอเลสเตอรอลได้ถึง 50% หรือครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว แล้ว “ตัวการ” ที่ทำให้คอเลสเตอรอลสูงที่สุดคืออะไร คำตอบคือ “ความเครียด” เมื่อร่างกายเครียด ระบบในร่างกายจะสร้างคอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้น เพื่อผลิตฮอร์โมนที่ใช้จัดการกับความเครียด อยากลดคอเลสเตอรอลอย่างมีประสิทธิภาพ 1. จัดการความเครียด เช่น ฝึกสมาธิ ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย     2. ดูแลสุขภาพใจ เพราะใจที่สงบ จะช่วยลดฮอร์โมนความเครียด […]

ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ไขมันตัวร้ายที่มองไม่เห็น แต่กลับอันตรายที่สุด

ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) เป็นภัยร้ายที่ไม่ควรมองข้าม สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าจะอ้วนหรือผอม หากไม่ดูแลการกินและการออกกำลังกาย ไขมันชนิดนี้สามารถนำพามาสู่โรคต่างๆ ได้มากมาย มาทำความรู้จักและเรียนรู้วิธีป้องกันไขมันในช่องท้องไปพร้อมกันค่ะ! ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) คืออะไร? ไขมันในช่องท้อง คือไขมันที่สะสมรอบอวัยวะภายใน เช่น ตับ ตับอ่อน และลำไส้ ต่างจากไขมันใต้ผิวหนังที่อยู่บริเวณผิวหนังที่เราสามารถจับหรือบีบได้ ไขมันในช่องท้องจะอยู่ลึกเข้าไปในร่างกาย และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอันตราย เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และไขมันในเลือดสูง Visceral Fat มักมองไม่เห็นจากภายนอก สะสมได้ทั้งในคนผอมและคนมีน้ำหนักเกิน ถึงแม้บางคนดูผอม แต่หากมีปัจจัยเสี่ยง เช่น การกินอาหารไม่ดีหรือไม่ออกกำลังกาย ไขมันในช่องท้องก็สะสมได้เช่นกันค่ะ ปัจจัยที่ทำให้เกิดไขมันในช่องท้อง 1. อาหารน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตสูง  เช่น เบเกอรี่ ขนมเค้ก น้ำเชื่อมข้าวโพด ฟาสต์ฟู้ด รวมถึงน้ำอัดลมและชา-กาแฟหวาน 2. ไขมันทรานส์ (Trans Fat) พบในอาหารแปรรูป เช่น ขนมอบ อาหารทอด และมาการีน 3. แอลกอฮอล์ […]

ฮอร์โมน DHEA ต่ำ จะส่งผลเสียอย่างไรต่อร่างกาย?

DHEA คืออะไร DHEA (Dehydroepiandrosterone) เป็นฮอร์โมนสำคัญที่ช่วยจัดการความเครียด โดยปกติระดับควรอยู่ที่มากกว่า 280 µg/mL หากระดับฮอร์โมนนี้ลดต่ำลง อาจบ่งบอกว่าร่างกายเผชิญกับความเครียดหรือใช้งานฮอร์โมนนี้มากเกินไป สาเหตุของฮอร์โมน DHEA ต่ำ ความเครียดสะสมเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ร่างกายใช้งาน DHEA มากเกินไป นอกจากนี้ การพักผ่อนไม่เพียงพอและพฤติกรรมการนอนหลับที่ไม่เหมาะสมก็ส่งผลต่อการผลิตและฟื้นฟูฮอร์โมนตัวนี้ อาการที่บ่งบอกว่าฮอร์โมน DHEA ต่ำ 1. ปัสสาวะบ่อยและใสมาก ดื่มน้ำมากแค่ไหนก็ขับออกหมด2. ความดันโลหิตต่ำ เนื่องจากฮอร์โมนนี้มีหน้าที่ในการเก็บน้ำและเกลือในร่างกาย หากเก็บไม่ได้ ความดันโลหิตจะลดลง3. เพลีย รู้สึกไม่สดชื่นตั้งแต่ตื่นนอน แม้จะพักผ่อนแล้วก็ยังรู้สึกเหนื่อย4. ขาดความสดชื่นในช่วงกลางวัน อาจรู้สึกหมดแรงหรือไม่กระปรี้กระเปร่า ฟื้นฟู DHEA ได้อย่างไร? 1. พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างน้อย 7-9 ชั่วโมงต่อวัน และควรเริ่มเข้านอนตั้งแต่สี่ทุ่ม2. ลดความเครียด ใช้เทคนิคผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิหรือจัดการเวลาดีขึ้น3. ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่ช่วยบำรุงต่อมหมวกไต เช่น อะโวคาโด ผักใบเขียว และไขมันดีสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมาย Line […]

3 ค่าที่ต้องระวัง❗ เป็นสัญญาณเตือนเสี่ยงมะเร็ง🧬🩸

มีค่าการตรวจเลือด 3 ค่าที่มักสูงในคนที่เป็นมะเร็ง ซึ่งพบได้บ่อยเมื่อตรวจร่างกาย หากคุณมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งหรือกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยง แนะนำให้ตรวจค่าต่อไปนี้ในการตรวจสุขภาพประจำปี 1. Serum Ferritin (ซีรัมเฟอร์ริติน)      ใช้ตรวจระดับธาตุเหล็กในร่างกาย      เซลล์มะเร็งมักต้องใช้ธาตุเหล็กในการแบ่งตัวและสร้างหลอดเลือดใหม่ ทำให้ระดับซีรัมเฟอร์ริตินมักสูงในผู้ป่วยมะเร็ง 2. LDH (Lactate Dehydrogenase)      เป็นเอนไซม์ที่มะเร็งใช้ในกระบวนการสลายน้ำตาลเพื่อสร้างพลังงาน     ในภาวะปกติ ร่างกายไม่ใช้ LDH ในกระบวนการนี้ แต่ในผู้ป่วยมะเร็ง ค่า LDH มักสูงผิดปกติ 3. Fibrinogen (ไฟบรินโนเจน)      โปรตีนที่ช่วยในกระบวนการแข็งตัวของเลือด     การอักเสบที่มักเกิดร่วมกับมะเร็งกระตุ้นให้ระดับไฟบรินโนเจนสูงขึ้น หากผลตรวจพบค่าทั้ง 3 นี้สูง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุเพิ่มเติม และตรวจเช็กว่ามีความเสี่ยงเป็นมะเร็งหรือไม่ การตรวจสุขภาพประจำปีช่วยให้เรารู้เท่าทันและป้องกันโรคได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ นะคะ ด่วน สนใจตรวจสุขภาพทั้ง 3 ค่านี้ พร้อมโปรโมชันส่งท้ายปี ซื้อ […]

วิธีดูง่าย ๆ ว่าไขมันสูงแล้วหรือยัง?✅

ไขมันในเลือดแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ คอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งการประเมินระดับไขมันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการคำนวณดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ตรวจระดับคอเลสเตอรอล      นำค่าคอเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol) หารด้วยค่า HDL (ไขมันดี)     หากผลลัพธ์มากกว่า 4 แสดงว่าคุณมีระดับคอเลสเตอรอลสูง การประเมินนี้ช่วยให้ทราบความเสี่ยงเบื้องต้นในการมีคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน ขั้นตอนที่ 2 ตรวจระดับไตรกลีเซอไรด์      นำค่าไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) หารด้วยค่า HDL (ไขมันดี)      หากผลลัพธ์มากกว่า 2 แสดงว่าคุณมีระดับไตรกลีเซอไรด์สูง ความเสี่ยงจากไขมันในเลือดสูง      คอเลสเตอรอลสูงอาจทำให้หลอดเลือดอุดตัน เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด     ไตรกลีเซอไรด์สูงทำให้ไขมันสะสมที่ตับ เกิดภาวะไขมันพอกตับ (Fatty Liver) และตับอักเสบได้ หากตับอักเสบเรื้อรัง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งตับในระยะยาว […]

ร่างพังแบบนี้ เสริมวิตามินอะไรดี?

การดูแลสุขภาพในวัยทำงานเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย เพราะกิจวัตรประจำวันที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ การทำงานหน้าจอคอมนานๆ ประชุมไม่หยุดหย่อน ไม่ค่อยได้พักผ่อนหรือออกกำลังกาย และการบริโภคอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ซึ่งทั้งหมดนี้อาจส่งผลให้ร่างกายเสียสมดุล ขาดวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น แม้วิตามินและแร่ธาตุจะเป็นสารอาหารรอง แต่ก็มีบทบาทสำคัญในการรักษาและเสริมสร้างประสิทธิภาพของร่างกาย ในที่นี้ จะแนะนำวิตามินที่เหมาะสมสำหรับอาการทางกายที่เกิดจากวิถีชีวิตของคนวัยทำงานกันค่ะ ปัญหาผิวแห้ง ริ้วรอย ผิวไม่สดใส วิตามินซี: ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม, เบอร์รี, ผักคะน้า, บรอกโคลี (ไม่เกิน 2,000 มก./วัน) วิตามินเอ: ผักผลไม้สีเหลือง ส้ม เขียว เช่น ตำลึง, ฟักทอง (ชาย 900-1,000 ไมโครกรัม/วัน, หญิง 700-800 ไมโครกรัม/วัน) โอเมก้า 3: ปลา, ถั่ว คอลลาเจน: ผักใบเขียว เช่น คะน้า, หน่อไม้ฝรั่ง, ดาร์กช็อกโกแลต (ไม่เกิน 10,000 มก./วัน) ธาตุเหล็ก: ตับ, เนื้อสัตว์, ไข่แดง, […]

 เช็กด่วน! 3 พฤติกรรมเสี่ยง “โรคตับ” เป็นง่ายแต่หายยาก

ตับเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำงานหนักเพื่อกรองสารพิษ สร้างโปรตีน และเก็บพลังงาน แต่ไลฟ์สไตล์ปัจจุบันทำให้ โรคตับ กลายเป็นภัยใกล้ตัว รู้ตัวอีกทีก็อาจสายเกินแก้ มาดู 3 พฤติกรรมเสี่ยง พร้อมวิธีป้องกันง่ายๆ ที่ทุกคนทำได้!  สายดื่ม สายปาร์ตี้  โรคที่เสี่ยง: ตับแข็ง การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปทำให้ตับสะสมพังผืด จนตับเสียหายถาวร สัญญาณอันตราย อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องบวม เลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง  ลดหรือเลิกแอลกอฮอล์ ดื่มไม่เกิน 1-2 ดริงค์/วัน (เบียร์ 1 กระป๋อง = 13 กรัม)  สายหวาน สายมัน  โรคที่เสี่ยง: ไขมันพอกตับ ไม่ใช่แค่คนอ้วน! คนผอมแต่ชอบกินหวาน-มัน และไม่ออกกำลังกาย ก็เสี่ยงเช่นกัน สัญญาณอันตราย โรคนี้มักไม่มีอาการในระยะแรก แต่สามารถพัฒนาไปเป็นตับแข็งได้ เลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง  ลดอาหารหวาน มัน และจังก์ฟู้ด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 150 นาที/สัปดาห์  สายรักสนุก ไม่ป้องกัน  […]

6 อาหารที่ควรระวัง  เพราะยิ่งกินบ่อย ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง! 

ในยุคที่ใครก็เสี่ยงต่อโรคมะเร็ง สภาพแวดล้อมและอาหารที่เราทานเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มโอกาสเสี่ยง หากคุณยังทานอาหารเหล่านี้บ่อยๆ ควรเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตั้งแต่วันนี้! 1. อาหารแปรรูปและปรุงแต่ อาหารอย่างไส้กรอก เบคอน และเนื้อเค็มมักมีสาร ดินประสิว (โปตัสเซียมไนเตรต) เป็นส่วนประกอบ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งกระเพาะอาหาร หลอดอาหาร และลำไส้ใหญ่  2. อาหารปิ้งย่าง รมควัน การย่างเนื้อที่โดนควันไฟทำให้เกิดสาร PAH ที่สะสมในร่างกาย อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งในระยะยาว  3. อาหารทอดที่ใช้น้ำมันซ้ำ น้ำมันที่ใช้งานซ้ำๆ สร้างสาร อะคริลาไมด์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร 4. อาหารไขมันสูง ไขมันจากเนื้อแดง น้ำมันปาล์ม หรือไขมันแปรรูป อาจเกี่ยวข้องกับมะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก  5. อาหารที่มีเกลือโซเดียมสูง แม้เกลือมีประโยชน์ แต่การบริโภคมากเกินไปอาจเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร  6. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ถูกเปลี่ยนเป็น อะเซทแอลดีไฮด์ ที่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง โดยเฉพาะหากสูบบุหรี่ร่วมด้วย วิธีลดความเสี่ยง  เลือกอาหารปรุงสุกใหม่ ใช้วิธีอบ ต้ม หรือนึ่ง  เพิ่มผักและผลไม้ที่มีวิตามินเอและอีในทุกมื้อ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะสุขภาพดีสร้างได้ด้วยตัวคุณเอง! […]