Tag Archives: ความดันโลหิตสูง

ความดันสูงหากปล่อยไว้ไม่รักษา  อาจเพิ่มเสี่ยงอัลไซเมอร์ถึง 42%! 

หลายคนคงทราบกันดีว่า “ความดันโลหิตสูง” นั้นถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาล่าสุดเผยว่า ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงโดยไม่ได้รับการรักษาหรือควบคุมอย่างเหมาะสม ก็ยังอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมองเสื่อมแบบอัลไซเมอร์ เมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับการรักษาความดันโลหิตอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปก็ยิ่งเสี่ยงมากค่ะ สรุปข้อมูลจากผลการวิจัย งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลกได้ทำการรวบรวมข้อมูลจากผู้เข้าร่วมการศึกษากว่า 34,000 คน ที่ไม่มีภาวะสมองเสื่อมในขณะเริ่มต้น โดยพบว่า ผู้ที่ปล่อยให้ความดันโลหิตสูงเป็นระยะเวลานานโดยไม่รักษา มีความเสี่ยงที่จะพัฒนาเป็นโรคอัลไซเมอร์สูงกว่าผู้ที่มีความดันโลหิตปกติถึง 42% และสูงกว่าผู้ที่ได้รับการรักษาความดันโลหิตถึง 26% นอกจากนี้ ในกลุ่มที่ได้รับการรักษาความดันโลหิตกลับไม่พบความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเกิดโรคอัลไซเมอร์แต่อย่างใด  ทำไมความดันสูงถึงเพิ่มความเสี่ยง? การที่ความดันโลหิตสูงไม่ได้รับการรักษาจะ สามารถทำให้เส้นเลือดในสมองได้รับความเสียหาย ส่งผลให้เนื้อเยื่อสมองเสื่อมสภาพและความสามารถในการส่งเลือดและออกซิเจนลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เซลล์สมองตายและเกิดภาวะสมองเสื่อม นอกจากนี้ นักวิจัยยังพบว่าการไม่ควบคุมความดันโลหิตอาจทำให้เกิดการสะสมของโปรตีนเบต้าอะมีลอยด์และเทา (Tau) ซึ่งมีส่วนทำให้เซลล์สมองทำงานผิดปกติ และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ในที่สุดค่ะ  แนวทางการป้องกันและดูแลสุขภาพ นักวิจัยบ่งชี้ว่า การรักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคสมองเสื่อมได้ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ที่ใช้ยารักษาความดันโลหิตอย่างต่อเนื่องมีความเสี่ยงต่อการเกิดอัลไซเมอร์ลดลงอย่างชัดเจน การรักษาความดันโลหิตสูงไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด แต่ยังช่วยป้องกันสมองจากการเสื่อมสภาพได้ด้วย  นอกจากนี้ การป้องกันความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์เริ่มต้นได้จากการควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ รวมถึงการดำเนินชีวิตที่สุขภาพดี เช่น การออกกำลังกายเป็นประจำ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง และลดการบริโภคเกลือ รวมถึงการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และการใช้ยาที่ไม่ได้รับการสั่งจากแพทย์ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการลดความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ได้ค่ะ ดังนั้น […]

💡นี่คือเหตุผล…ว่าทำไมเราควรลด “โซเดียม” 🧂

โซเดียม (Sodium) เป็นเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่การบริโภคโซเดียมมากเกินไปสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้อย่างรุนแรง! ดังนั้น เราจึงควรระวังการบริโภคโซเดียมให้พอเหมาะ วันนี้เราจะมาดูเหตุผลที่สำคัญกันค่ะ ว่าทำไมเราจึงควรลดโซเดียมในอาหาร! ผลกระทบระยะสั้น 1. กระหายน้ำมากขึ้น : การบริโภคโซเดียมมากเกินไปทำให้ร่างกายต้องการน้ำมากขึ้น เพื่อขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกาย ซึ่งอาจทำให้รู้สึกกระหายน้ำตลอดเวลา และอาจนำไปสู่การดื่มน้ำมากเกินความจำเป็น ทำให้ไตทำงานหนักขึ้นในการขับน้ำส่วนเกินออก 2. ความดันโลหิตสูงขึ้น : โซเดียมมีผลทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น การบริโภคโซเดียมมากเกินไปทำให้หลอดเลือดหดตัว เพิ่มแรงดันในหลอดเลือด และอาจนำไปสู่ภาวะความดันโลหิตสูงเรื้อรังได้ 3. บวมน้ำ : การสะสมของโซเดียมในร่างกายทำให้ร่างกายเก็บกักน้ำ ทำให้เกิดอาการบวม โดยเฉพาะที่ใบหน้า มือ และเท้า อาจทำให้รู้สึกอึดอัดและไม่สบายตัว 4. ท้องอืดง่ายขึ้น : โซเดียมที่มากเกินไปทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ ทำให้ท้องอืด มีแก๊สในกระเพาะ และรู้สึกไม่สบายท้อง 5. เหนื่อยง่าย : โซเดียมมากเกินไปทำให้ร่างกายทำงานหนักขึ้นในการขับโซเดียมออก ส่งผลให้รู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีแรง และสมรรถภาพในการทำกิจกรรมลดลง ผลกระทบระยะยาว 1. ภาวะอ้วน : การบริโภคโซเดียมมากเกินไปสามารถทำให้เราอยากอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่มีเกลือสูง ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและนำไปสู่ภาวะอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดโรคเรื้อรัง 2. โรคหัวใจ […]

6 อวัยวะที่เสี่ยง ‘พัง’ ⛔ หากปล่อยให้ “ความดันสูง” ⚡

การรักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากปล่อยให้ความดันโลหิตสูงต่อเนื่องโดยไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อวัยวะสำคัญในร่างกายอาจถึงขั้น ‘พัง’ ได้  จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีผู้ใหญ่ 1 ใน 3 ป่วยเป็นภาวะความดันโลหิตสูง และคาดว่าจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต  ภาวะความดันโลหิตสูงนี้ เกิดจากหลายปัจจัยรวมถึงสภาพแวดล้อม พฤติกรรมการรับประทานอาหาร เช่น บริโภคอาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน เช่น อาหารรสเค็ม หวาน มันสูง การขาดการออกกำลังกาย การสูบบุหรี่ นอกจากนี้ ความเครียดก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความดันโลหิตที่สูงขึ้นได้ ความดันโลหิตสูงถูกเรียกว่า ‘ภัยเงียบ’ เนื่องจากอาการอาจไม่ชัดเจนจนกว่าจะถึงระยะที่เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น วิงเวียนศีรษะ มีเลือดกำเดาไหล หอบหายใจเร็ว แน่นหน้าอก หรือมือเท้าชา เป็นต้น และเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง หากปล่อยให้ภาวะความดันโลหิตสูงไม่ได้รับการควบคุมอาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรงต่ออวัยวะสำคัญของร่างกาย ได้แก่ 1. สมอง : ความดันโลหิตสูงอาจทำให้เกิดหลอดเลือดสมองตีบ อุดตัน หรือแตก นำไปสู่อาการอัมพฤกษ์ อัมพาต เสี่ยงต่อการเสียชีวิตหรือเลือดออกในสมอง 2. หัวใจ : ความดันโลหิตสูงส่งผลทำให้กล้ามเนื้อหัวใจโต และหลอดเลือดหัวใจหนาและแข็งตัวขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่อาการเจ็บหน้าอกจากหัวใจขาดเลือด หรือหัวใจล้มเหลวจนเสียชีวิตในที่สุด […]