ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) เป็นภัยร้ายที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าจะอ้วนหรือผอม หากไม่ดูแลการกินและการออกกำลังกาย ไขมันชนิดนี้สามารถนำพามาสู่โรคต่างๆ ได้มากมาย มาทำความรู้จักและเรียนรู้วิธีป้องกันไขมันในช่องท้องไปพร้อมๆ กันนะคะ! ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) คืออะไร? ไขมันในช่องท้อง หรือที่เรียกว่า Visceral Fat คือไขมันที่สะสมอยู่รอบๆ อวัยวะภายในช่องท้อง เช่น ตับ ตับอ่อน และลำไส้ ซึ่งต่างจากไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ที่อยู่บริเวณผิวหนังที่เราสามารถจับหรือบีบได้ ไขมันในช่องท้องจะอยู่ลึกเข้าไปในร่างกาย และที่สำคัญคือเป็นตัวการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอันตราย เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และภาวะไขมันในเลือดสูง Visceral Fat มักเป็นไขมันที่มองไม่เห็นจากภายนอก และสามารถสะสมได้ทั้งในคนที่ดูผอมและคนที่มีน้ำหนักเกิน ทำให้คนส่วนใหญ่อาจไม่รู้ตัวว่ามีความเสี่ยง ถึงแม้บางคนอาจดูผอม แต่ถ้ามีปัจจัยเสี่ยง เช่น การกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพหรือการไม่ออกกำลังกาย ไขมันในช่องท้องก็สามารถสะสมได้เช่นกันนะคะ! ปัจจัยที่ทำให้เกิดไขมันในช่องท้อง สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการสะสมของไขมันในช่องท้องมาจากพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตที่ไม่สมดุล มาดูกันว่ามีอะไรที่คุณควรระวังบ้าง: 1. อาหารที่มีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตสูง อาหารที่มีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตแปรรูป เช่น เบเกอรี่ ขนมเค้ก น้ำเชื่อมข้าวโพด หรืออาหารฟาสต์ฟู้ดที่ให้พลังงานสูงแต่ไม่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ […]
Author Archives: admin
ปัญหา “ไขมันในเลือดสูง” เป็นภัยเงียบที่อาจนำไปสู่โรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ และ โรคหลอดเลือดสมอง หากคุณมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ทานของทอดบ่อยๆ หรือมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน ควรเริ่มต้นตรวจระดับไขมันในเลือดอย่างจริงจังค่ะ มาดูกันว่าไขมันในเลือดควรมีค่าเท่าไหร่ และวิธีป้องกันดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้สุขภาพแย่ลงค่ะ ไขมันในเลือดมีอะไรบ้าง? ไขมันในเลือดที่ต้องจับตามองมี 2 ชนิดหลักค่ะ ไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglycerides) ไตรกลีเซอร์ไรด์เป็นไขมันที่ร่างกายใช้เก็บพลังงานไว้ในระยะยาว หากระดับสูงเกินไปจะสะสมตามหลอดเลือดและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจค่ะ ระดับปกติ: ไม่เกิน 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร เสี่ยงสูง: 200 มิลลิกรัมขึ้นไป คอเลสเตอรอล (Cholesterol) คอเลสเตอรอลมีบทบาทสำคัญในการสร้างฮอร์โมนและเซลล์ แต่ต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสมค่ะ คอเลสเตอรอลแบ่งออกเป็น: LDL (ไขมันไม่ดี): หากเกิน 160 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการอุดตันของหลอดเลือด HDL (ไขมันดี): ควรมีไม่น้อยกว่า 35 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร เพื่อช่วยลดไขมันส่วนเกิน คอเลสเตอรอลรวม: ควรไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หากเกิน 240 มิลลิกรัมถือว่าเสี่ยงมากค่ะ […]
คุณเคยประสบปัญหานี้ไหม? น้ำหนักลดลงแต่รูปร่างยังไม่กระชับ หรือออกกำลังกายอย่างหนักแต่ไม่แน่ใจว่ากล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นจริง ๆ หรือเปล่า? นั่นเป็นเพราะว่าตัวเลขบนตาชั่งทั่วไปบอกได้เพียง “น้ำหนักรวม” ของร่างกายเท่านั้น ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าน้ำหนักนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง เช่น ไขมัน กล้ามเนื้อ หรือปริมาณน้ำในร่างกาย BIA (Bioelectrical Impedance Analysis) คืออะไร? เพื่อทำความเข้าใจร่างกายของคุณให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เราขอแนะนำให้รู้จักกับ เครื่อง BIA (Bioelectrical Impedance Analysis) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกายที่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับร่างกายของคุณได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็น ปริมาณกล้ามเนื้อ บอกให้คุณรู้ว่ามีกล้ามเนื้ออยู่เท่าไหร่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการเผาผลาญพลังงานและรูปร่างที่ดี ไขมันสะสม แสดงปริมาณไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกาย ช่วยให้คุณประเมินความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพต่าง ๆ น้ำในร่างกาย ตรวจสอบความสมดุลของน้ำในร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ มวลกระดูก ประเมินความหนาแน่นของมวลกระดูก ซึ่งสำคัญต่อสุขภาพกระดูกในระยะยาว อัตราการเผาผลาญพื้นฐาน (BMR) บอกว่าร่างกายของคุณใช้พลังงานไปเท่าไหร่ในภาวะพักผ่อน เพื่อช่วยวางแผนการรับประทานอาหารได้อย่างเหมาะสม พิเศษกว่าตาชั่งทั่วไปอย่างไร? เครื่อง BIA มีความแตกต่างและโดดเด่นกว่าตาชั่งทั่วไปอย่างมาก ดังนี้ รู้ลึกถึงภายใน ไม่ใช่แค่บอกว่า “หนักเท่าไหร่” แต่ยังลงลึกไปถึงองค์ประกอบภายในว่าในน้ำหนักนั้นมีไขมันหรือกล้ามเนื้อเท่าไหร่ แยกแยะสุขภาพจริงจากตัวเลขบนตาชั่ง […]
หากคุณกำลังเผชิญปัญหานอนไม่หลับ หลับไม่สนิท หรือตื่นกลางดึก สิ่งแรกที่ต้องแก้ไข คือ สุขลักษณะการนอนหลับ หรือ Sleep Hygiene ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยปรับสมดุลการนอนของคุณให้ดีขึ้น 12 วิธีปรับสุขลักษณะการนอน 1. นอนและตื่นให้เป็นเวลา ควรเข้านอนและตื่นในเวลาเดิมทุกวัน โดยเฉพาะการนอนหัวค่ำเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพที่สุด และไม่ควรเข้านอนเกินเที่ยงคืน เพราะการนอนเกินเที่ยงคืนจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ระยะเวลาการนอนที่เหมาะสม คือ นอนเกิน 7 ชั่วโมงขึ้นไป 2. รับแสงแดดยามเช้า หลังตื่นนอน ควรออกไปรับแสงแดดในตอนเช้า อย่างน้อย 3-5 นาที เพื่อช่วยรีเซ็ตนาฬิกาชีวิตของร่างกาย ทำให้สมองรู้ว่าเป็นช่วงเวลาเช้า และช่วยปรับวงจรการหลับ-ตื่นให้เป็นปกติ 3. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มกระตุ้นระบบประสาท กาแฟและแอลกอฮอล์ เป็น 2 สิ่งที่ควรงดหากคุณมีปัญหานอนไม่หลับ เพราะกาแฟมีคาเฟอีนที่ทำให้ตื่นตัว ขณะที่แอลกอฮอล์อาจทำให้หลับง่ายขึ้นในช่วงแรก แต่ส่งผลให้คุณตื่นกลางดึกได้ง่าย 4. งดการงีบกลางวัน โดยเฉพาะช่วงบ่ายและเย็น หากต้องการให้ง่วงและนอนหลับสนิทในตอนกลางคืน ควรหลีกเลี่ยงการงีบหลับในช่วงกลางวัน 5. หลีกเลี่ยง 3 สิ่งนี้ก่อนนอน 3 ชั่วโมง ไม่รับประทานอาหารหนัก เพราะระบบย่อยอาหารที่ทำงานหนักอาจรบกวนการนอน […]
ถ้าถามถึงประโยชน์ของการออกกำลังกาย ให้พูดทั้งวันก็ไม่หมด ทั้งช่วยให้ร่างกายอึดทน ช่วยเผาผลาญไขมันออกจากตัวให้เพรียวสวย ช่วยลดความเฉื่อยชาทำให้มีแรงตลอดวัน แต่วันนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องความเยาว์วัยกันค่ะ ไปดูกันว่าทำไมการออกกำลังกายถึงช่วยชะลอความชราลงได้ ทำให้เซลล์เสื่อมช้า แก่หรือไม่ ไม่ได้วัดกันที่วันเวลาบนโลกค่ะ แต่วัดกันจากอายุเซลล์ ยิ่งเราอายุมากขึ้นส่วนปลายของโครโมโซมในเซลล์ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมอายุขัยเซลล์ต่างๆ จะสั้นลงเรื่อยๆ ค่ะ ยิ่งเซลล์แก่ก็ยิ่งทำให้ร่างกายแก่ลง เป็นเหตุให้ร่างกายทั้งภายในและภายนอกเกิดความเสื่อมและชรานั่นเอง แต่การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมีผลให้อายุเจ้าหมวกส่วนปลายของโครโมโซมนี้เสื่อมช้าลงและคงความยาวได้นานขึ้น หรือก็คือทำให้แก่ช้าลงจากภายในนั่นเองค่ะ ช่วยรักษาระดับฮอร์โมน ร่างกายจำเป็นต้องมีฮอร์โมนอย่างเพียงพอเพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ ทั้งที่ฮอร์โมนจำเป็นกับร่างกายมากๆ แต่ยิ่งเราอายุมากขึ้น ร่างกายก็จะผลิตฮอร์โมนได้น้อยลง เลยทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายลดลงด้วย แต่การออกกำลังกายเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนได้มากขึ้น เช่น ฮอร์โมนเพศที่ช่วยรักษาระดับการเผาผลาญ ฮอร์โมนอินซูลินที่ช่วยสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด โกรทฮอร์โมนที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมร่างกาย รวมทั้งฮอร์โมนอื่นๆ ที่ช่วยคงประสิทธิภาพการทำงานของสมองและอารมณ์ด้วยค่ะ ถนอมผิวพรรณเปล่งปลั่ง งานวิจัยพบว่า ผู้หญิงวัย 40 ที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะมีสุขภาพผิวที่ดีเทียบเท่ากับสาวอายุ 30 เลยค่ะ หมายความว่าการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณดูเด็กลงได้เป็น 10 ปี นั่นเป็นเพราะการออกกำลังกายช่วยให้กล้ามเนื้อรวมถึงผิวหนังของเราแข็งแรง มีโครงสร้างชั้นผิวที่ดีและมีความยืดหยุ่นสูงขึ้น ริ้วรอยต่างๆ ก็เกิดได้ยากขึ้น รวมทั้งช่วยให้ผิวขจัดสารตกค้างและสิ่งสกปรกออกไปได้มากผ่านทางเหงื่อด้วยค่ะ ช่วยเสริมกระดูกแข็งแรง เมื่อคุณอายุแตะเลขสาม ร่างกายจะเริ่มหยุดสร้างมวลกระดูกค่ะ พออายุแตะเลขสี่ กระดูกก็จะเริ่มเกิดความเสียหายทีละน้อย เริ่มปวดหลัง ปวดตามข้อ กระดูกเริ่มเปราะ ส่งผลให้บุคลิกร่างกายเปลี่ยนไปเป็นคนเจ็บออดแอดเหมือนคนแก่ด้วยนั่นเอง […]
วิตามิน D เป็นสารอาหารสำคัญที่จำเป็นต่อระบบการทำงานต่างๆ ภายในร่างกาย เป็นส่วนประกอบคล้ายฮอร์โมนและทุกๆ เซลล์ในร่างกายของเรา แล้วร่างกายเราจะขาดวิตามิน D ไม่ได้ ส่วนมากคนไทยมักขาดวิตามิน D เพราะว่าคนไทยส่วนมากกลัวแดด ไม่ค่อยโดนแดด วิตามิน D ปกติเราจะได้รับจากแสงแดด โดยแสงแดดจะมาเปลี่ยนคอเลสเตอรอลใต้ผิวหนังให้เป็นวิตามิน D กลุ่มคนที่ขาดวิตามินดี คือ กลุ่มคนที่เป็นโรคตับ โรคไต เพราะว่าเมื่อโดนแดดและมีการสังเคราะห์วิตามิน D จะต้องใช้ตับ ใช้ไต ช่วยเปลี่ยนวิตามิน D ให้ Active และใช้งานได้ เพราะฉะนั้นคนที่ตับและไตไม่ดีจึงขาดวิตามิน D ไปด้วย วิตามิน D พบได้มากในจำพวกปลาแซลม่อน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ปลาทับทิม ปลาตะเพียน ไข่แดง ตับ นม เห็ด ซึ่งบางครั้งวิตามิน D ที่ได้รับอาจมีปริมาณน้อยและไม่เพียงพอในการรับประทานจากอาหารเพียงอย่างเดียว 8 อาการที่บอกว่า ‘คุณกำลังขาดวิตามิน D’ ป่วยบ่อยและติดเชื้อไวรัสง่าย เหนื่อยง่าย ร่างกายอ่อนแอ […]
หลายคนอาจไม่รู้ว่า “ไต” คืออวัยวะสำคัญที่ช่วยกรองของเสียในร่างกาย ถ้าไตเริ่มมีปัญหา อย่านิ่งนอนใจ! 3 สิ่งที่เราต้องรีบเช็ก ถ้าอยากดูแลไตให้ดี 1. ยาที่ทานอยู่ หลายคนไม่รู้ว่า “ยาบางชนิดทำร้ายไต” โดยไม่รู้ตัว! ควรเช็กว่ายาอะไรที่เราทานเป็นประจำ อาจต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรว่ามียาตัวไหนที่ควรหลีกเลี่ยง 2. ค่า “ยูริก” ยูริกสูง = ภาระหนักของไต โดยเฉพาะในผู้หญิงและผู้ชายที่มีปัจจัยเสี่ยง ค่า “ยูริก” ที่ปลอดภัยควร ผู้ชาย ต่ำกว่า 7.0 mg/dL ผู้หญิง ต่ำกว่า 5.3 mg/dL สาเหตุของยูริกสูงมาจากหลายปัจจัย เช่น ฮอร์โมน การทานอาหารที่มีพิวรีนสูง หรือพฤติกรรมการดื่มน้ำน้อย สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงถ้ายูริกสูง น้ำผลไม้ ผลไม้ปริมาณมาก แนะนำ: ถ้าจะทานผลไม้ ควรเลือกที่มีรสเปรี้ยว เช่น มะนาว ส้มโอ ฝรั่ง และควบคุมปริมาณอย่างเหมาะสม 3. ความดันโลหิต ความดันสูง = ทำลายไตโดยตรง ถ้าคุมได้ที่ […]
เคยเป็นแบบนี้กันไหมคะ พอตื่นนอนแล้วลุกขึ้นมา กลับรู้สึกหน้ามืด เวียนศีรษะ คล้ายๆ จะเป็นลม หากคุณมีอาการเหล่านี้ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจนะคะ เพราะมันอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติของร่างกายและความแข็งแรงของหัวใจ ดังเช่น หัวใจสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงสมองไม่ทันหลังลุกขึ้นมาจากท่านอน จึงเกิดอาการหน้ามืด (มักพบในกลุ่มผู้สูงวัยมากกว่าคนหนุ่มสาว) ร่างกายอาจกำลังขาดน้ำ จากการทานน้ำน้อยเกินไป ร่างกาย ปอด และหัวใจไม่ค่อยแข็งแรง เนื่องจากไม่ค่อยได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกาย พักผ่อนไม่เพียงพอ จนร่างกาย สมอง และหัวใจเกิดอาการล้าสะสม อาจมีภาวะความดันโลหิตต่ำ เลือดจาง หรือโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ร่วมด้วย แม้อาการเหล่านี้จะไม่ใช่สัญญาณเตือนที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่าร่างกายและหัวใจของเรากำลังอ่อนแอลงค่ะ หากใครพบว่ามีอาการหน้ามืดตอนลุกขึ้นมาจากเตียงหรือเก้าอี้บ่อยๆ ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ช่วยแก้ไขอาการเหล่านี้ค่ะ หลังตื่นนอนแล้ว อย่าเพิ่งลุกขึ้นมาพรวดพราด ให้ค่อยๆ ลุกจากท่านอนช้าๆ เพื่อให้หัวใจได้ปรับตัว หัวใจสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงสมองทัน นั่งพักให้ร่างกายได้ตื่นตัวก่อน แล้วจึงค่อยลุกขึ้นจากเตียง เพื่อไม่ให้หน้ามืดจนล้มเกิดอุบัติเหตุได้ค่ะ หันมาออกกำลังกายให้มากขึ้น โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเพื่อเน้นให้หัวใจและปอดแข็งแรงขึ้น เช่น เดิน วิ่ง แอโรบิค ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และออกกำลังกายให้ได้ 30 นาทีต่อวัน ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวันเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ โดยเฉลี่ยคือประมาณ […]
เคยไหม… ป่วยบ่อยแบบไม่มีสาเหตุ ตื่นมาก็เหนื่อย ไม่สดชื่น เป็นภูมิแพ้ ไอ จามไม่หยุด ท้องอืด ท้องเสีย หรือท้องผูกเป็นประจำ รู้ไหมว่า มากกว่า 70% ของภูมิคุ้มกันในร่างกายเราอยู่ที่ “ลำไส้” ลำไส้ไม่ได้มีดีแค่ย่อยอาหาร แต่ยังเป็นแนวหน้าของการป้องกันโรคเลยก็ว่าได้ เพราะในนั้นมีจุลินทรีย์นับล้านล้านตัว และหนึ่งในตัวช่วยสำคัญก็คือ Probiotics หรือ “จุลินทรีย์ดี” Probiotics ทำหน้าที่เหมือนทหารกล้า ปกป้องลำไส้จากเชื้อโรค กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ตื่นตัว ลดการอักเสบ ช่วยระบบย่อยอาหารให้ลื่นไหล แต่ถ้าขาด Probiotics ล่ะ? ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เสี่ยงติดเชื้อง่าย เป็นภูมิแพ้ง่ายขึ้น ระบบย่อยรวน ท้องผูก ท้องเสียถามหา วิธีเติม Probiotics ให้ลำไส้แบบง่าย ๆ กินโยเกิร์ต ทานกิมจิ เทมเป้ หรืออาหารหมัก หรือเสริมด้วยผลิตภัณฑ์อาหารเสริม การดูแล “ลำไส้” ให้แข็งแรง = การเสริมเกราะให้ร่างกาย เริ่มต้นดูแลวันนี้ เพื่อสุขภาพดีแบบยั่งยืนทุกวันนะคะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมาย […]
“ข้อเข่าเสื่อม” เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย เมื่อข้อเข่าเริ่มเสื่อมลง การเคลื่อนไหวจะไม่สะดวกและอาจมีอาการปวดร่วมด้วย การรู้จักระยะต่างๆ ของข้อเข่าเสื่อมจะช่วยให้เราสามารถดูแลรักษาและป้องกันได้อย่างเหมาะสม วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ 4 ระยะของข้อเข่าเสื่อม พร้อมกับวิธีการเฝ้าระวังและดูแลตนเองกันค่ะ 4 ระยะของข้อเข่าเสื่อม ระยะที่ 1: เริ่มมีอาการเสียวตึงที่เข่า อาการมักจะเป็นๆ หายๆ แต่จะรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวที่ไม่สะดวก อาจจะมีเสียงคลิกหรือดึงที่เข่าซึ่งเป็นสัญญาณเตือนแรกๆ ของข้อเข่าเสื่อม การเสื่อมของข้อเข่าในระยะนี้มักจะยังไม่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน แต่หากมีการใช้งานที่หนัก เช่น การยืนหรือเดินเป็นเวลานาน อาการอาจจะปรากฏให้เห็นชัดเจนขึ้น วิธีการป้องกันในระยะนี้สามารถทำได้โดยการลดน้ำหนัก และการออกกำลังกายที่เน้นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า เพื่อเพิ่มความมั่นคงและลดการเสียดสีของข้อ ระยะที่ 2: มีเสียงดังกร๊อบแกร๊บ เริ่มมีอาการปวด มักเป็นข้างเดียวก่อน อาการจะเริ่มหนักขึ้นเมื่อมีการใช้งานมาก เช่น การเดินขึ้นลงบันได การเสื่อมของข้อในระยะนี้จะทำให้กระดูกอ่อนที่ข้อเข่าถูกทำลายไปมากขึ้น ทำให้เกิดเสียงดังกร๊อบแกร๊บเมื่อมีการเคลื่อนไหว การรักษาในระยะนี้อาจจะต้องใช้ยาลดปวด และการทำกายภาพบำบัด เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดและเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า ระยะที่ 3: ปวดจนงอเข่าไม่ได้ อาการจะเริ่มเป็นทั้ง 2 ข้าง ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวที่ผิดธรรมชาติ เช่น การเดินที่ต้องใช้ขาหรือข้อเข่าในท่าที่ไม่ถูกต้อง การเสื่อมของข้อในระยะนี้จะทำให้ข้อเข่ามีการเสียดสีและการอักเสบมากขึ้น ทำให้เกิดอาการปวดที่รุนแรง การรักษาในระยะนี้อาจจะต้องใช้ยาลดการอักเสบ และการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง […]