ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร สัญญาณภาวะ “ตับอักเสบ”

‘ตับ’ เป็นอวัยวะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย…
เอาแค่เรื่องนี้ก็อาจนับเป็นความรู้ใหม่แล้วสำหรับหลายๆ คนนะคะ

นอกจากตับจะมีขนาดใหญ่ที่สุดแล้ว หน้าที่ของตับในการกรองของเสียและกำจัดสารพิษที่ตกค้างในร่างกายนั้นก็มีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ดังนั้นการใส่ใจดูแลสุขภาพน้องตับของเราแท้จริงแล้วจึงมีความสำคัญ ไม่เช่นนั้นอาจนำมาซึ่งภาวะโรคตับอักเสบได้ค่ะ

โรคตับอักเสบ

เป็นภาวะที่เซลล์ตับเกิดการอักเสบ ทำให้ตับเกิดความเสียหายจนก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยต่างๆ ตามมา โดยหากเราปล่อยให้ตับอักเสบอย่างเรื้อรัง ความอักเสบนี้จะส่งผลกระทบทำให้การทำงานของตับผิดเพี้ยน ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายอย่างโรคตับแข็งหรือมะเร็งตับได้ โรคตับอักเสบนั้นเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ และความน่ากลัวอยู่ที่ทุกคนนั้นสามารถที่จะเป็นโรคนี้ได้ค่ะ

โรคตับอักเสบที่พบมากที่สุดคือ :

โรคตับอักเสบที่มีสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ และพฤติกรรมการทานอาหารที่มีไขมันสูง
โรคไวรัสตับอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซึ่งสายพันธุ์ที่พบบ่อยได้แก่ ไวรัสตับอักเสบ A, B, และ C

ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคตับอักเสบส่วนใหญ่ได้แก่

พฤติกรรมการทานอาหารที่เป็นพิษต่อตับ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเป็นประจำ หรืออาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง
การได้รับสารเคมีหรือใช้ยาบางชนิดเป็นเวลานาน
การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อโดยไม่ป้องกัน
การใช้สิ่งของร่วมกันกับผู้อื่น เช่น มีดโกน กรรไกรตัดเล็บ

อาการของผู้ป่วยโรคตับอักเสบโดยรวมมีลักษณะคล้ายกันคือ

มีอาการปวดเมื่อยตามตัว รู้สึกอ่อนเพลีย
เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
ปวดท้องหรือเจ็บใต้ชายโครงด้านขวา
ปัสสาวะเป็นสีเข้ม
ตัวและดวงตามีสีเหลืองหรือภาวะดีซ่าน

ถ้าเราอยากป้องกันและดูแลน้องตับให้เค้าแข็งแรงและอยู่กับเราไปได้นานๆ โดยเบื้องต้นต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นปัจจัยก่อให้เกิดโรค เช่น อาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ควรออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ, มีการรักษาสุขอนามัยขั้นพื้นฐานอยู่เสมอ เช่นล้างมือให้สะอาด ทานอาหารที่ปรุงสุก ไม่ควรใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น, การสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์, การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ A และ B

นอกจากนั้นสำคัญมากคือต้องหมั่นตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละครั้งนะคะ เพื่อตรวจเช็คค่าตับ โดยปกติแล้วค่าตับสามารถเช็คได้จากการตรวจเลือดเพื่อดูค่า ALT (SGPT) และค่า AST (SGOT) หากพบว่าค่าตับสูงเกินกว่า 40U/L แสดงว่าตับของคุณกำลังผิดปกติค่ะ

นอกจากการป้องกันแล้ว การฟื้นฟูและบำรุงตับก็เป็นสิ่งที่ทำได้และควรทำนะคะ เริ่มต้นอย่างง่ายเลยคือการเลือกทานอาหารที่เหมาะสม ดังนี้

พยายามหลีกเลี่ยงอาหารดิบ โดยเฉพาะอาหารทะเลดิบ เพราะมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารพิษจากทะเลได้
เน้นอาหารเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกแล้วเป็นหลัก
ผลไม้ที่มีวิตามิน C สูงอย่าง ส้ม มะขามป้อม กีวี่ มะละกอ โดยวิตามิน C จะช่วยลดการอักเสบและช่วยในการทำงานของตับ
ธัญพืชที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ถั่วแดง ถั่วเขียวทั้งหลาย ซึ่งไฟเบอร์นี้จะช่วยลดการดูดซึมไขมัน จึงป้องกันการเกิดภาวะไขมันพอกตับได้
น้ำมันที่ใช้ในการประกอบอาหารก็สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงแบบที่มีไขมันทรานส์ แต่เน้นเป็นน้ำมันชนิดที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (MUFA) สูง เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันกราโนล่า เพื่อเพิ่มไขมันดี HDL ให้ไขมันดีไปช่วยกำจัดไขมันเลวออกจากร่างกาย ลดการเกิดภาวะไขมันพอกตับค่ะ
.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมาย
Line : https://line.me/R/ti/p/%40214byvpd
Website : https://healthfocusclinic.co.th/
Tel : 02-096-4945
Location : The Grove Hathairaj (เดอะ โกรพ หทัยราษฏร์)
_________________________________________________
ทำความรู้จักกับหมออรรถ (อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ)
https://hfocusclinic.com/หมออรรถ-อย่าฝากชีวิตไว้/