น้ำมันปลาที่ดี ควรดูอย่างไร

ทุกคนคงรู้กันแล้วใช่ไหมคะ ว่าน้ำมันปลามีประโยชน์ต่อสุขภาพของเราหลายอย่างเลย ไม่ว่าจะช่วยเรื่องต้านการอักเสบในร่างกาย บรรเทาอาการปวดข้อ ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยเรื่องความจำให้ดีขึ้นและช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ด้วยค่ะ

🐠 น้ำมันปลา คือ

น้ำมันที่สกัดมาจากปลาจากแหล่งธรรมชาติค่ะ โดยในน้ำมันปลาจะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่เข้มข้นอยู่ค่ะ ซึ่งกรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายเราอย่างมากเลยล่ะคะ แต่ร่างกายเราก็ไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้จำเป็นต้องได้รับจากอาหารหรืออาหารเสริมที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ค่ะ แล้วในกรดไขมันโอเมก้า 3 จะมีกรดไขมันสำคัญอยู่ 2 ตัวที่เราต้องการ นั่นคือ EPA (Eicosapentaenoic Acid) และ DHA (Docosahexaenoic Acid) ค่ะ

🫀 โดย EPA จะช่วยเรื่องหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ ช่วยบรรเทาอาการข้อเสื่อมได้ค่ะ 🧠 ส่วน DHA จะช่วยเรื่องสมองและดวงตา ช่วยป้องกันความเสื่อมของสมองและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของดวงตาให้ดีขึ้นได้ค่ะ

💛 แล้วอย่างที่บอกไปค่ะว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 ร่างกายเราสร้างเองไม่ได้ต้องได้รับจากอาหารหรืออาหารเสริม ทุกวันนี้จึงมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมน้ำมันปลา (โอเมก้า 3) วางจำหน่ายกันอย่างมากในท้องตลาดเลยค่ะ แต่ละยี่ห้อ แต่ละแบรนด์ก็มีส่วนผสมในน้ำมันปลาที่แตกต่างกันออกไปค่ะ

ในท้องตลาดส่วนมากเรามักเห็นน้ำมันปลาขนาดเม็ดละ 1,000 mg ใช่ไหมคะ แต่จริงๆ แล้วในเม็ด 1,000 mg นั้นอาจไม่ได้มีแค่ EPA และ DHA เพียงเท่านั้น แต่ยังมีส่วนผสมอื่นๆ ที่ใส่ลงไปอีกด้วยค่ะ ซึ่งบางยี่ห้ออาจใส่วิตามินอีที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ บางยี่ห้ออาจเติมสารแอสตาแซนธิน (Astaxanthin) ที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือดหัวใจลงไป หรือบางยี่ห้ออาจเติมโอเมก้า 9 ที่เป็นไขมันดี ช่วยลดการอักเสบในร่างกายลงไปค่ะ

⚠️ปกติแล้วน้ำมันปลาในท้องตลาดบางชนิด ส่วนมากในเม็ด 1,000 mg จะมี EPA 180 mg และ DHA 120 mg รวมกันแล้วจะได้ปริมาณ 300 mg ซึ่งถือว่ามีปริมาณ EPA และ DHA ต่อเม็ดมีน้อยเลยค่ะ ส่วนอีก 700 mg ที่เหลืออาจไม่ใช่ EPA และ DHA ค่ะ ส่วนที่เหลืออาจเป็นไขมันชนิดอื่นปนมา ซึ่งอาจเป็นไขมันที่ไม่ดีปนมาได้เช่นกันค่ะ หากรับประทานเข้าไปก็ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ค่ะ โดยไขมันที่ไม่ดีที่ปนมาด้วยอาจประกอบไปด้วย

▪️ ไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat) จัดเป็นไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพค่ะ เช่น เนื้อติดมัน ไส้กรอก เบคอน กุนเชียง ไก่ทอด หากรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวมากเกินไปอาจทำให้คอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น แล้วอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองได้ค่ะ

▪️ ไขมันไตรกลีเซอไรด์ (Trigleceride) เป็นไขมันที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้นในตับหรือร่างกายได้รับจากการรับประทานอาหารประเภทไขมันและคาร์โบไฮเดรต เช่น หมูสามชั้น น้ำมัน เนย น้ำตาล แป้ง ขนมหวาน หากร่างกายได้รับมากเกินความจำเป็นจะถูกเปลี่ยนเป็นไตรกลีเซอไรด์ อาจเกิดไตรกลีเซอไรด์สูงแล้วถูกสะสมที่เนื้อเยื่อและตับ เสี่ยงเป็นโรคไขมันพอกตับ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็งเต้านมได้เลยค่ะ

▪️ กรดไขมันโอเมก้า 6 ซึ่งกรดไขมันโอเมก้า 6 ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ เป็นสารอาหารที่อยู่ในอาหารกลุ่มไขมันแทบทุกชนิด พบมากใน น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกทานตะวัน ไข่ ถั่ว นม และเนื้อสัตว์ ซึ่งในความเป็นจริงเราได้รับโอเมก้า 6 เยอะเกินไปเลยล่ะค่ะ แล้วการได้รับเยอะเกินไปนั้นจะทำให้เกิดกระบวนการอักเสบในร่างกาย เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดอุดตันได้ค่ะ

⚠️ ดังนั้นในคนที่รับประทานน้ำมันปลาที่มีส่วนผสมของไขมันที่ไม่ดีเหล่านี้ไป แทนที่จะช่วยลดไขมัน ลดการอักเสบ แต่อาจกลายเป็นไปเพิ่มไขมันและเพิ่มการอักเสบในร่างกายแทนได้นั่นเองค่ะ

✅ เพราะฉะนั้นการที่จะเลือกซื้อน้ำมันปลามารับประทานจึงควรดูปริมาณของ EPA และ DHA เป็นหลักว่ามีกรดไขมันทั้ง 2 ตัวนี้อย่างละเท่าไร หรือรวมกันแล้วมีปริมาณเท่าไร ซึ่งน้ำมันปลาที่ดีและมีคุณภาพควรมี EPA และ DHA รวมกันเกิน 60% ของเม็ดน้ํามันปลาค่ะ เช่น น้ํามันปลา 1,000 mg ควรจะมี EPA และ DHA รวมกันเกินกว่า 600 mg ขึ้นไป หรือรวมกันเกิน 60% ขึ้นไป ซึ่งตัวเปอร์เซ็นต์ยิ่งมีมากก็ยิ่งดี ยิ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพที่สุดค่ะ

💡 นอกจากนี้งานวิจัยใหม่ๆ พบว่า ควรให้มี EPA เกินกว่า 50% ของเม็ดขึ้นไป เช่น น้ำมันปลา 1,000 mg ก็ควรมี EPA อย่างน้อย 500 mg ก็จะยิ่งดีต่อสุขภาพขึ้นไปอีกนะคะ

การซื้อน้ำมันปลานอกจากจะดูปริมาณของ EPA และ DHA แล้ว ควรจะต้องดูว่า เป็นยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการยอมรับ มั่นใจเรื่องความปลอดภัย มีกระบวนการผลิตที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตระดับสากล GMP และ มาตรฐานการผลิตยา (PIC/S) และผ่านการตรวจสอบปราศจากสารปนเปื้อน สารปรอท และสารพิษโลหะหนักอื่นๆ ด้วยนะคะ

การรับประทานน้ำมันปลาดีต่อสุขภาพในหลายๆ ด้าน แต่การเลือกรับประทานทาน้ำมันปลาให้มีประโยชน์สูงสุด เราควรเลือกน้ำมันปลาที่มีคุณภาพ ไม่ควรมองที่ราคาเพียงอย่างเดียว แต่ควรมองที่ส่วนผสมอื่นๆ ด้วย เพื่อประโยชน์สูงสุดที่สุขภาพของเราจะได้รับนะคะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมาย
💬Line : https://line.me/R/ti/p/%40214byvpd
🖥Website : https://healthfocusclinic.co.th/
📞Tel : 02-096-4945
📍Location : The Grove Hathairaj (เดอะ โกรพ หทัยราษฏร์)
_________________________________________________
🔗ทำความรู้จักกับหมออรรถ (อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ)
https://hfocusclinic.com/หมออรรถ-อย่าฝากชีวิตไว้/

🔗ทำไมต้องมาตรวจสุขภาพที่ Health Focus Clinic
https://hfocusclinic.com/ทำไมต้องเรา/

#healthfocusclinic #น้ำมันปลา #โอเมก้า3 #โอเมก้า9 #EPA #DHA

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *