ข้อควรระวัง ผู้เป็น “โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)” ห้ามทำเด็ดขาด

“โรคหลอดเลือดสมอง” หรือ Stroke เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที มิเช่นนั้นเซลล์สมองที่ขาดเลือดไปเลี้ยงจะค่อยๆ ตายลงเรื่อยๆ จากประสบการณ์ของ หมออรรถ อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหลอดเลือดสมองและเวชศาสตร์ชะลอวัย แห่ง “Health Focus Clinic” พบว่าหลายครั้งผู้ป่วยและญาติมักจะมีความเข้าใจผิดหรือปฏิบัติตัวไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหรือทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ ทางคลินิกจึงได้รวบรวมข้อควรระวังที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยที่มี “อาการสโตรก” มาฝากกัน ดังนี้

“Stroke คือ” อะไร

“Stroke คือ” ภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงเฉียบพลัน เนื่องจากหลอดเลือดสมองเกิดการอุดตันหรือแตกทะลุ ทำให้เนื้อสมองบริเวณนั้นๆ ถูกทำลายไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ส่งผลให้เกิดอาการอัมพาตครึ่งซีก อ่อนแรง ชา พูดลำบาก สับสน ปวดศีรษะรุนแรง ตามตำแหน่งของหลอดเลือดสมองที่มีปัญหา ซึ่งเป็นอาการเตือนที่ผู้ป่วยและญาติควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

“เส้นเลือดในสมองตีบอาการเริ่มแรก”

หากเส้นเลือดในสมองเกิดการตีบแคบหรืออุดตัน จะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ไม่เพียงพอ เนื้อสมองส่วนนั้นก็จะค่อยๆ ขาดออกซิเจนและสารอาหาร จนในที่สุดก็จะตายไป โดย “อาการสโตรก” ระยะเริ่มแรกผู้ป่วยจะอ่อนแรงหรือชาที่แขนขาครึ่งซีกใดซีกหนึ่ง ใบหน้าเบี้ยว ลากเท้าขณะเดิน พูดลำบาก ปากเบี้ยว สับสน มึนงง ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างทันทีทันใด ถ้าพบอาการผิดปกติเหล่านี้ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที ยิ่งได้รับการวินิจฉัยและรักษาเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งมีโอกาสรักษาหายและฟื้นตัวได้มากขึ้น

ข้อห้ามเด็ดขาดสำหรับผู้ป่วย Stroke มีอะไรบ้าง

1. ห้ามปรับเปลี่ยนยาหรือหยุดยาเอง

ผู้ป่วย “โรคหลอดเลือดสมอง” ส่วนใหญ่มักจะต้องรับประทานยาเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนหรือควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาความดันโลหิตสูง ยาลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด เป็นต้น การปรับขนาดยาหรือหยุดยากะทันหันเองโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ อาจทำให้โรคกำเริบหรือเกิดผลข้างเคียงรุนแรงถึงชีวิตได้

2. ห้ามออกกำลังหักโหมหรือทำกิจกรรมเสี่ยง

ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ใช้แรงมากๆ เช่น วิ่ง กระโดด ยกของหนัก รวมถึงการอยู่ในอิริยาบถท่าเดิมนานๆ นั่งยองหรือนั่งคุกเข่านานๆ เพราะจะทำให้ความดันในกะโหลกศีรษะเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกซ้ำในสมอง ควรทำกายภาพบำบัดอย่างเบาๆ ตามคำแนะนำจากนักกายภาพหรือแพทย์เท่านั้น

3. ห้ามกลั้นอุจจาระปัสสาวะหรือเบ่งถ่ายแรงๆ

การกลั้นอุจจาระปัสสาวะหรือเบ่งถ่ายแรงๆ จะทำให้ความดันในช่องท้องและอุ้งเชิงกรานเพิ่มสูงขึ้นมาก ส่งผลให้ความดันในกะโหลกศีรษะสูงขึ้นตามไปด้วย เสี่ยงต่อภาวะเลือดออกซ้ำในสมองได้ ควรถ่ายอุจจาระอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรอั้นปัสสาวะนานๆ หากมีอาการท้องผูกควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาระบาย ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง

4. ห้ามงดอาหารหรือควบคุมอาหารเอง

ผู้ป่วย “โรคหลอดเลือดสมอง” บางคนอาจงดอาหารบางมื้อ คิดว่าจะช่วยควบคุมน้ำหนักหรือลดระดับน้ำตาลในเลือด แต่แท้จริงแล้วการงดอาหารนานๆ จะทำให้ร่างกายขาดพลังงานและสารอาหาร เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นลมหมดสติหรือน้ำตาลในเลือดต่ำได้ การรับประทานอาหารที่เหมาะสมตามหลัก DASH diet จะช่วยให้การฟื้นฟูสภาพร่างกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

5. ห้ามใช้ยาสมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆ โดยไม่ปรึกษาแพทย์

ยาสมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด อาจมีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด หรือเพิ่มความดันโลหิต ซึ่งอาจไปเสริมฤทธิ์หรือต้านฤทธิ์ยาที่แพทย์สั่งได้ เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายหรือเลือดออกซ้ำในสมองได้ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้สมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกครั้ง

นอกจากนี้ในเพจของ “หมออรรถ อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ” มีให้ข้อมูลการดูแลผู้ป่วย “โรคหลอดเลือดสมอง” และมีเทคนิคการดูแลผู้ป่วย Stroke ให้ฟื้นตัวได้เร็วและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การดูแลใกล้ชิดและให้กำลังใจจากญาติพี่น้อง เพราะผู้ป่วยที่เพิ่งเกิด “โรคหลอดเลือดสมอง” มักจะรู้สึกท้อแท้ กังวลกับอนาคต การได้รับกำลังใจและการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดจากคนในครอบครัว ถือเป็นยาวิเศษที่จะช่วยให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกโดดเดี่ยวและมีกำลังใจในการต่อสู้กับโรคได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ “Health Focus Clinic” มุ่งมั่นให้การดูแลรักษาผู้ป่วย “โรคหลอดเลือดสมอง” ด้วยแนวทางเวชศาสตร์ชะลอวัยและการแพทย์แผนปัจจุบันควบคู่กันไป โดยเน้นการดูแลแบบผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางและครอบครัวมีส่วนร่วม เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการฟื้นฟูสภาพอย่างเต็มศักยภาพ ป้องกันภาวะแทรกซ้อน และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างใกล้เคียงปกติมากที่สุด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *