Epigenetics กุญแจลับที่ช่วยคุณเลือกสุขภาพเองได้

หลายคนกังวลว่าโรคทางพันธุกรรมที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความจริงแล้ว… ยีนไม่ใช่ตัวกำหนดชะตาสุขภาพของเราทั้งหมด แม้เราจะได้รับยีนของโรคบางอย่างมาจากพ่อแม่ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องป่วยเสมอไป เพราะร่างกายมีกลไกที่น่าทึ่งอย่าง “Epigenetics” (ภาวะเหนือพันธุกรรม) คอยทำหน้าที่เป็นเหมือน “สวิตช์” เปิด-ปิดการทำงานของยีนอีกชั้นหนึ่ง

การทำความเข้าใจเรื่องนี้จะทำให้คุณค้นพบว่า เราสามารถออกแบบสุขภาพและสร้างชีวิตในแบบที่ต้องการ รวมถึงเพิ่มโอกาสในการมี Longevity หรือการมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ ได้มากกว่าที่เคยคิด มาทำความรู้จักกับ Epigenetics ให้มากขึ้นกันค่ะ!

Epigenetics คืออะไร?

Epigenetics (อ่านว่า เอ-พิ-เจ-เน-ติกส์) คือการศึกษาการเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของยีน โดยที่ไม่ได้เข้าไปเปลี่ยนแปลงรหัสหรือโครงสร้างของดีเอ็นเอ (DNA) โดยตรงค่ะ หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ลองนึกดูนะคะว่า DNA ของเราเปรียบเสมือน “บทละคร” ที่เราได้รับมาตั้งแต่เกิด แต่ Epigenetics คือ “ผู้กำกับ” ที่จะคอยสั่งว่านักแสดง (ยีน) คนไหนจะได้ออกไปแสดงบทบาทอะไร หรือนักแสดงคนไหนต้องอยู่หลังเวทีก่อน

ดังนั้น แม้ว่าเราจะมียีนที่อาจทำให้เสี่ยงต่อโรคบางชนิด แต่ถ้า “ผู้กำกับ” หรือ Epigenetics ไม่สั่งให้ยีนนั้นทำงาน โรคนั้นก็อาจจะไม่ปรากฏอาการออกมานั่นเองค่ะ เรื่องนี้บอกเราว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิตและสิ่งแวดล้อมต่างๆ รอบตัวเรามีผลอย่างมากต่อการเปิดหรือปิดยีนเหล่านี้นะคะ

กลไกการทำงานหลักของ Epigenetics

การที่ Epigenetics จะเปิดหรือปิดการทำงานของยีนนั้น มีกลไกหลักๆ ที่สำคัญอยู่ 3 รูปแบบด้วยกันค่ะ

  • การเติมหมู่เมทิล (DNA Methylation) เป็นกระบวนการที่ร่างกายจะนำสารเคมีกลุ่มเมทิล (Methyl group) ไปแปะติดไว้บนตัวดีเอ็นเอในตำแหน่งที่ต้องการ เหมือนกับการเอาโพสต์อิทไปแปะทับข้อความในหนังสือเพื่อบอกว่า “ส่วนนี้ไม่ต้องอ่าน” การมีกลุ่มเมทิลไปเกาะจะทำให้ยีนนั้นถูก “ปิด” การทำงานลง หรือทำงานได้น้อยลงค่ะ
  • การดัดแปลงโปรตีนฮิสโตน (Histone Modification) ปกติแล้วสายดีเอ็นเอยาวๆ ของเราจะพันอยู่รอบโปรตีนที่ชื่อว่า “ฮิสโตน” (Histone) เหมือนเส้นด้ายที่พันรอบแกนด้ายค่ะ การดัดแปลงโปรตีนฮิสโตนนี้ก็เหมือนกับการปรับความแน่นของการพัน ถ้าพันไว้แน่น ยีนในบริเวณนั้นก็จะถูกซ่อนเอาไว้และไม่สามารถแสดงออกได้ แต่ถ้าคลายให้หลวมลง ยีนก็จะถูกเปิดโอกาสให้ออกมาทำงานได้มากขึ้นค่ะ
  • การควบคุมโดยอาร์เอ็นเอที่ไม่เข้ารหัส (Non-coding RNA Regulation) ในเซลล์ของเรามี RNA บางชนิดที่ไม่ได้มีหน้าที่สร้างโปรตีน แต่ทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้ควบคุมกฎจราจร คอยสั่งการยีนตัวอื่นๆ อีกทีหนึ่ง เช่น สั่งให้ยีนบางตัวหยุดการทำงานชั่วคราว ซึ่งเป็นอีกกลไกหนึ่งที่ช่วยควบคุมการแสดงออกของยีนให้เป็นไปอย่างสมดุลค่ะ

Epigenetics เกี่ยวข้องกับสุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บอย่างไร?

การเปลี่ยนแปลงของ Epigenetics มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคต่างๆ อย่างมีนัยสำคัญเลยค่ะ เพราะการเปิดหรือปิดยีนที่ผิดปกติไปอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพได้

  • โรคมะเร็ง: ความผิดปกติของ Epigenetics สามารถไป “ปิด” การทำงานของยีนที่ช่วยป้องกันมะเร็ง (Tumor Suppressor Genes) หรือในทางกลับกันก็อาจไป “เปิด” ยีนที่กระตุ้นให้เกิดเซลล์มะเร็ง (Oncogenes) ได้ค่ะ
  • โรคเมตาบอลิก: โรคอย่างเบาหวานชนิดที่ 2 หรือโรคอ้วน ก็มีความเกี่ยวข้องกับ Epigenetics เช่นกันค่ะ พฤติกรรมการทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูงอาจส่งผลให้การทำงานของยีนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดผิดเพี้ยนไป
  • สุขภาพจิตและพฤติกรรม: ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องของอารมณ์ก็เกี่ยวข้องด้วยนะคะ มีงานวิจัยพบว่าความเครียดเรื้อรังสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทาง Epigenetics กับยีนที่ควบคุมฮอร์โมนความเครียด ส่งผลให้บางคนมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะซึมเศร้าหรือวิตกกังวลได้ง่ายขึ้นค่ะ

เราจะดูแล Epigenetics ของเราให้ดีขึ้นได้อย่างไร?

ข่าวดีก็คือ แม้ว่าเราจะเปลี่ยนยีนหรือพันธุกรรมที่ติดตัวมาไม่ได้ แต่เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อส่งเสริมให้ Epigenetics ของเราทำงานในทิศทางที่ดีต่อสุขภาพได้ค่ะ เหมือนกับการเลือก “ผู้กำกับที่ดี” มาควบคุมบทละครชีวิตของเรานั่นเอง ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญเพื่อส่งเสริม Longevity ของเรา

  1. เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์: การทานผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง สามารถช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของ Epigenetics ที่ไม่พึงประสงค์ได้ค่ะ
  2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังช่วยลดความเครียดและกระตุ้นการทำงานของยีนที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญพลังงานให้ดีขึ้นด้วย
  3. จัดการความเครียด: การทำสมาธิ การฝึกหายใจ หรือการหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย สามารถลดผลกระทบจากฮอร์โมนความเครียดที่มีต่อ Epigenetics ของเราได้ค่ะ
  4. หลีกเลี่ยงสารพิษและมลภาวะ: การหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ สารเคมีอันตรายต่างๆ และมลภาวะในสิ่งแวดล้อม ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยดูแล Epigenetics ของเราไม่ให้ถูกรบกวนในทางที่ไม่ดีได้

จะเห็นได้ว่า Epigenetics เป็นศาสตร์ที่ทำให้เรามองเห็นความหวังในการดูแลสุขภาพมากขึ้นนะคะ เพราะมันบอกเราว่า “พฤติกรรม” และ “การใช้ชีวิต” ของเราในวันนี้ มีพลังมากกว่าที่เราคิด และสามารถส่งผลดีไปถึงสุขภาพของเราในระยะยาวได้อย่างแน่นอนค่ะ

ที่มา: https://www.samitivejhospitals.com/…/detail/epigenetic https://www.bdmswellness.com/knowledge/what-is-epigenetics https://www.eucerin.co.th/…/agein…/epigenetics-explained https://www.scispec.co.th/…/genomics/20240412-epigenetic
#Healthfocusclinic #Epigenetics #DNA #พันธุกรรม #มะเร็ง #Longevity

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *