ทราบหรือไม่คะว่า “ความอ้วน” นั้นถือเป็นปัจจัยอันดับหนึ่งที่ทำให้เกิด “โรคข้อเข่าเสื่อม” ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ แต่คนที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วนก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเช่นกันค่ะ เนื่องจากข้อเข่าต้องรับน้ำหนักมากขึ้น ทำให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น นอกจากนี้ คนอ้วนมักจะเคลื่อนไหวได้น้อยลง ทำให้กล้ามเนื้อรอบข้อเข่าไม่แข็งแรงเพียงพอนั่นเองค่ะ
โรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมของกระดูกอ่อนในข้อเข่า โดยที่กระดูกข้อต่อและกระดูกบริเวณใกล้ข้อเกิดการสึกหรอและเสื่อมลง เมื่อไม่มีผิวกระดูกอ่อนมาห่อหุ้ม กระดูกจะมีการชนกันขณะรับน้ำหนัก โดยเฉพาะในเพศหญิง หากมีน้ำหนักเกินก็จะมีโอกาสเกิดโรคนี้สูงถึง 9 เท่าเลยทีเดียว!
สัญญาณเตือนข้อเข่าเสื่อม 
1. ปวดหัวเข่า 
อาการปวดหัวเข่าเป็นสัญญาณที่พบบ่อยที่สุด มักปวดมากขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหว เช่น เดินขึ้นหรือลงบันได นั่งพับเพียบ หรือนั่งยองๆ แต่อาการจะลดลงหลังการพัก อาการปวดมักจะเป็นๆ หายๆ ติดต่อกันนานกว่า 6 เดือน
2. เข่ามีเสียงกรอบแกรบ 
เมื่อเคลื่อนไหวเข่าจะมีเสียงกรอบแกรบ และรู้สึกปวดร่วมด้วย นอกจากนี้ยังมีอาการฝืดตึง ข้อติด เคลื่อนไหวลำบากในตอนเช้า ขาดความยืดหยุ่น เหยียดหรืองอเข่าได้ไม่สุด
3. เสียวหัวเข่า 
รู้สึกเสียวหัวเข่าเวลาเดินหรือเคลื่อนไหว เกิดจากความบกพร่องของส่วนประกอบในข้อ เช่น ข้อเข่าหลวม หรือกล้ามเนื้อต้นขาอ่อนแรง
4. บวม ร้อน กดเจ็บ 
อาการบวม ร้อน และกดเจ็บบริเวณหัวเข่า โดยเฉพาะในกรณีที่มีการอักเสบ ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าเข่าอุ่น และเจ็บมากขึ้นเมื่อใช้มือกด
5. ข้อเข่าโก่งงอ ต้นขาลีบ ข้อเข่าผิดรูป 
ข้อเข่าโก่งงอ ต้นขาลีบ ข้อเข่าผิดรูปเป็นอาการที่ชัดเจนของโรคข้อเข่าเสื่อม ทำให้ขาสั้นลง เดินหรือใช้ชีวิตประจำวันลำบาก และมีอาการปวดเวลาเดินหรือขยับ
อ้วนแค่ไหนเสี่ยงข้อเข่าเสื่อม?
การใช้ค่าดัชนีมวลกาย (body mass index, BMI) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาค่ะ โดยคนปกติจะมี BMI อยู่ที่ 18.5-24.9 กก./ตร.ม.
- BMI มากกว่า 30 กก./ตร.ม. ขึ้นไปถือว่าเป็นคนอ้วน แต่ยังไม่ถือว่าเป็นโรคอ้วน
- BMI อยู่ที่ 35 กก./ตร.ม. ขึ้นไปถือเป็นคนอ้วนขั้นรุนแรง
- BMI ที่ 40 กก./ตร.ม. ขึ้นไปถือเป็น “โรคอ้วน”
วิธีป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อม
- ลดน้ำหนัก
– การลดน้ำหนักจะช่วยลดภาระที่ข้อเข่าต้องรับ และลดความเสี่ยงของการเกิดโรค
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
– การออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น การเดิน ว่ายน้ำ หรือโยคะ จะช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
– เน้นอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดี เช่น นม ถั่ว ปลา และผักใบเขียว
- หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่ทำให้เกิดแรงกดดันสูง
– หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้น้ำหนักมาก เช่น การวิ่งบนพื้นแข็ง หรือการกระโดดสูง
การรักษาสุขภาพหัวเข่าเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้จะช่วยให้คุณมีข้อเข่าที่แข็งแรงและใช้งานได้ดีไปนานๆ อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำและตรวจสุขภาพหัวเข่าอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคอ้วนและปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่ตามมาได้ด้วยนะคะ
อ้างอิง:
https://www.bangkokpattayahospital.com/…/1075-obesity…
https://www.phyathai.com/th/article/3784-รู้จักโรคข้อเข่าเสื่อ
#healthfocusclinic #โรคข้อเข่าเสื่อม