ในยุคที่คนเริ่มพูดถึงการมีอายุยืนถึง 100 หรือแม้แต่ 120 ปี คำถามสำคัญไม่ใช่ว่า “เราจะอยู่ได้นานแค่ไหน” แต่คือ “เราจะอยู่แบบไหน” ต่างหาก เพราะการมีชีวิตยืนยาวนั้นไร้ความหมาย หากช่วงสุดท้ายของชีวิตต้องจบลงด้วยโรคภัยและความทุกข์ทรมาน Longevity หรือการมีสุขภาพดีไปจนถึงวาระสุดท้ายต่างหากคือเป้าหมายที่แท้จริง
จากข้อมูลในปี 2025 อายุเฉลี่ยของคนไทยอยู่ที่ 81 ปีสำหรับผู้หญิง และ 74 ปีสำหรับผู้ชาย แต่ช่วง 10-15 ปีสุดท้ายของชีวิต หลายคนกลับต้องใช้เวลาอยู่กับความเจ็บป่วย เราจึงอยากชวนให้ทุกคนเปลี่ยนมุมมองใหม่ว่า “อยู่กี่ปีก็ไม่สำคัญเท่ากับอยู่โดยไม่ป่วย”
หากอยากมีชีวิตที่ยืนยาวและเปี่ยมด้วยคุณภาพ ควรเริ่มดูแล 3 ระบบหลักของร่างกาย ดังนี้
1. ระบบหัวใจและหลอดเลือด – ศูนย์กลางการหล่อเลี้ยงชีวิต
หัวใจและหลอดเลือดทำหน้าที่สูบฉีดเลือด ออกซิเจน และสารอาหารไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย หากระบบนี้เสื่อมลง ย่อมส่งผลให้อวัยวะอื่นทำงานได้ไม่เต็มที่ ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยโรคไต หากหัวใจเริ่มทำงานแย่ลง ค่าการทำงานของไตก็จะถดถอยตามไปด้วย ดังนั้นหัวใจและหลอดเลือดต้องแข็งแรงเป็นอันดับแรก การดูแลหัวใจเริ่มจากการป้องกันหลอดเลือดอุดตัน เช่น ตรวจเช็ก Calcium Score เป็นประจำ ควบคุมไขมันในเลือด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่
2. สมอง – ถ้าสมองเสื่อม ชีวิตทั้งเราและคนรอบข้างจะลำบาก
สมองคือหัวใจของการใช้ชีวิต หากเราอายุยืนแต่สมองไม่สามารถจดจำ พูดคุย หรือคิดวิเคราะห์ได้เหมือนเดิม ก็เท่ากับว่าคุณภาพชีวิตลดลงอย่างมาก และคนใกล้ชิดต้องรับภาระดูแลอย่างหนัก ซึ่งการดูแลป้องกันสมองเสื่อมที่ดีที่สุด คือ การนอนหลับ
หลักการนอนเพื่อป้องกันภาวะสมองเสื่อมมี 3 ข้อ ดังนี้
- ไม่ควรนอนหลังเที่ยงคืน – การนอนดึกทำให้สมองไม่ได้ฟื้นฟูเต็มที่
- นอนอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อคืน – เป็นขั้นต่ำที่ร่างกายต้องการ
- ควรมี Deep Sleep (หลับลึก) และ Rem Sleep (หลับฝัน) รวมกันให้ได้อย่างน้อย ครึ่งหนึ่งของเวลานอน เช่น ถ้านอน 7 ชั่วโมง ควรมีการหลับลึกและหลับฝันรวมกันอย่างน้อย 3.5 ชั่วโมง
3. กล้ามเนื้อ – พื้นฐานการเคลื่อนไหวและคุณภาพชีวิต
รู้หรือไม่? กล้ามเนื้อของเราจะเริ่มสลายทีละน้อยตั้งแต่อายุ 25 ปี โดยเฉลี่ยปีละ 1% และจะยิ่งลดลงเรื่อยๆ เมื่ออายุมากขึ้น หากเราไม่ดูแลกล้ามเนื้อให้ดี เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุจะเดินเหินลำบาก เสี่ยงต่อการหกล้มง่ายขึ้น โดยเฉพาะในภาวะที่กระดูกบางร่วมด้วย หากล้มจนกระดูกหัก (โดยเฉพาะสะโพก) จะยิ่งเสี่ยงต่อภาวะทุพพลภาพถาวร
การดูแลกล้ามเนื้อมี 2 ปัจจัยสำคัญ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการฝึกกล้ามเนื้อแบบมีแรงต้าน (Resistance Training)
- สารอาหารที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างและป้องกันการสลายของกล้ามเนื้อ ได้แก่
- HMB (β-Hydroxy β-Methylbutyrate) : เป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้นเองจากการสลายตัวของกรดอะมิโนลิวซีน (Leucine) มีศักยภาพในการช่วยเสริมสร้างและรักษามวลกล้ามเนื้อ และช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังออกกำลังกาย
- Creatine (ครีเอทีน) : เป็นสารประกอบธรรมชาติที่พบได้ในร่างกายของเรา โดยตับ ไต และตับอ่อนเป็นอวัยวะหลักในการสังเคราะห์ Creatine มีหน้าที่ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เพิ่มพละกำลังและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
ซึ่งสารอารหารทั้ง 2 ชนิดนี้มีบทบาทสำคัญในการรักษามวลกล้ามเนื้อในผู้สูงอายุ และช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างกระฉับกระเฉงไปตลอดช่วง Longevity
ถ้าอยากมีชีวิตที่ยืนยาว พร้อมคุณภาพชีวิตที่ดี อย่ารอให้ป่วยก่อนค่อยเริ่มดูแลตัวเองให้เริ่มตั้งแต่วันนี้ ด้วยการรักษาหัวใจให้แข็งแรง นอนให้มีคุณภาพเพื่อป้องกันสมองเสื่อม และอย่าปล่อยให้กล้ามเนื้อสลายไปโดยไม่ทำอะไรเลย อายุยืนได้…แต่คุณภาพชีวิตก็สำคัญมากเช่นกัน
อ้างอิงข้อมูล : https://youtu.be/SjNRBOsrMW8?si=j4j_SZ5srz-q_u5S
#healthfocusclinic #ครีเอทีน #Creatine #เสริมสร้างกล้ามเนื้อ #ผลิตพลังงาน #Longevity