ทุกคนคงรู้จัก “แคลเซียม” กันเป็นอย่างดีในฐานะสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน แต่รู้ไหมคะว่า แคลเซียมตัวเดียวกันนี้ หากไปสะสมผิดที่ผิดทาง เช่น ไปเกาะอยู่ที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ ก็จะกลายเป็น “หินปูน” ที่อันตรายต่อสุขภาพ เพราะจะทำให้หลอดเลือดตีบตัน และเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้ค่ะ
หินปูนไปเกาะที่หลอดเลือดหัวใจได้อย่างไร?
หินปูนในหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Calcification) เกิดจากการที่แคลเซียมไปสะสมบริเวณผนังหลอดเลือดที่มีการอักเสบหรือเสื่อมสภาพ ร่างกายของเราพยายามซ่อมแซมจุดที่มีปัญหาโดยใช้แคลเซียมมาเกาะ แต่แทนที่จะช่วยป้องกัน กลับทำให้หลอดเลือดแข็ง ตีบ และอุดตันง่ายขึ้นกว่าเดิมค่ะ แถมแคลเซียมมักจะเกาะในบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่ก่อนแล้วด้วย ทำให้การอุดตันเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น โดยปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหินปูน ได้แก่
- อายุที่มากขึ้น (โดยเฉพาะอายุ 45 ปีขึ้นไป)
- มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
- พฤติกรรมเสี่ยง เช่น น้ำหนักเกิน ไม่ออกกำลังกาย เครียด พักผ่อนน้อย
- กรรมพันธุ์ ถ้ามีคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น
- การกินอาหารไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันเลวหรือไขมันทรานส์ เช่น อาหารจานด่วน เบเกอรี ของทอด
จะเกิดอะไรขึ้น หากหินปูนสะสมจนหลอดเลือดหัวใจตีบ?
เมื่อหินปูนสะสมมากขึ้น หลอดเลือดหัวใจจะตีบแคบลง ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และหากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดภาวะ “กล้ามเนื้อหัวใจตาย” (Myocardial Infarction) หรือที่เรียกกันว่า “หัวใจวายเฉียบพลัน” ซึ่งอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ โดยสัญญาณอันตรายที่ควรระวัง ได้แก่
- เจ็บแน่นหน้าอก
- หายใจไม่อิ่ม เหนื่อยง่ายผิดปกติ
- ใจสั่น เวียนศีรษะบ่อย
- หมดสติกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุ
ทั้งนี้หินปูนที่เกาะในหลอดเลือดหัวใจมักใช้เวลาสะสมหลายปี และไม่แสดงอาการชัดเจนจนกว่าจะรุนแรงแล้ว หลายคนจึงไม่ทันรู้ตัว และมักรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีอาการร้ายแรงไปแล้วค่ะ
วิธีป้องกันและลดความเสี่ยงจากหินปูนเกาะหลอดเลือดหัวใจ
การป้องกันคือหัวใจสำคัญในการดูแลสุขภาพหลอดเลือดของเรา และนี่คือคำแนะนำดีๆ ที่ทำตามได้ง่ายในชีวิตประจำวันค่ะ
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง และอาหารเค็มจัด หันมากินผัก ผลไม้ และโปรตีนไขมันต่ำ เช่น ปลา ไก่ไร้หนัง ธัญพืชไม่ขัดสีแทนค่ะ
ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ เช่น เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรงและลดการสะสมของหินปูนได้
เลิกบุหรี่และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นตัวทำลายผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดการอักเสบและเพิ่มโอกาสเกิดหินปูนเกาะมากขึ้น
จัดการความเครียดให้ดี เพราะความเครียดทำให้หลอดเลือดอักเสบง่ายขึ้น หาเวลาผ่อนคลายด้วยการทำสมาธิ โยคะ หรือกิจกรรมที่ชื่นชอบ เพื่อช่วยให้หัวใจผ่อนคลายขึ้นค่ะ
ตรวจสุขภาพประจำปี การตรวจเลือด ตรวจไขมัน และทำ Calcium Scoring (CT Scan) จะช่วยให้เราทราบถึงการสะสมของหินปูนในหลอดเลือดหัวใจได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ค่ะ
หินปูนเกาะหลอดเลือดหัวใจคือภัยเงียบที่ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า การดูแลสุขภาพด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทั้งเรื่องอาหาร การออกกำลังกาย และลดความเครียด เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันค่ะ หากคุณหรือคนในครอบครัวมีปัจจัยเสี่ยงหรือมีอาการผิดปกติ อย่าลังเลที่จะไปพบแพทย์และตรวจสุขภาพหัวใจตั้งแต่วันนี้ เพื่อชีวิตที่ยืนยาวและหัวใจที่แข็งแรงตลอดไปค่ะ
อ้างอิง:
https://www.phyathai.com/…/calcified-plaques-coronary…
https://www.bnhhospital.com/th/article/หินปูนเกาะหลอดเลือดหัว/
#healthfocusclinic #หินปูนเกาะหลอดเลือดหัวใจ