#HealthFocusClinic #หมออรรถ(อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ)
Stem Cell (สเต็มเซลล์) คือ เซลล์ต้นกำเนิดที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากกับร่างกายเรา เป็นเซลล์พิเศษที่มีประสิทธิภาพสูงที่พบได้ในทุกการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิต แล้วยังเป็นเซลล์ที่สามารถพัฒนาตัวเองไปเป็นเซลล์อื่นๆ ในร่างกายได้ ช่วยฟื้นฟูเซลล์เก่าที่เสียหายให้กลับมาทำงานได้อีกครั้ง ช่วยลดการอักเสบต่างๆ ในร่างกาย แล้วยังช่วยในเรื่องของการชะลอวัย ฟื้นฟูความเสื่อมของร่างกาย รวมไปถึงการนำไปใช้ในการรักษาโรคบางโรค หรือโรคที่เกิดจากความเสื่อมของเซลล์ในร่างกายได้อีกด้วย
ทาง Health Focus Clinic จึงรวบรวมความรู้ในด้านสุขภาพ จาก หมออรรถ(อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ) เพื่อเป็นความรู้ให้กับทุกคน
กล่าวถึงตัวอย่างของ Stem Cell เช่น เวลาที่ผู้ชายและผู้หญิงมีการผสมกันของอสุจิของเพศชายกับไข่ของเพศหญิง แล้วกลายเป็นเซลล์ขึ้นมาเซลล์หนึ่ง สิ่งนี้เรียกว่า Stem Cell ซึ่งเป็น Stem Cell ที่มีประสิทธิภาพสูง โดย Stem Cell จะเริ่มต้นจากเซลล์ๆ เดียวแล้วกลายมาเป็นเซลล์มนุษย์ได้ทั้งตัว ซึ่งสามารถกลายไปเป็นเซลล์สมอง เซลล์หัวใจ เซลล์ตับ หรือเซลล์อื่นๆ ในร่างกายได้ แต่เมื่อเราอายุเยอะขึ้นปริมาณ Stem Cell ก็จะเริ่มน้อยลง คุณภาพก็จะแย่ลงไปด้วยเช่นกัน การเสริม Stem Cell ให้ร่างกายก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจและได้รับความนิยมในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้น
การให้ Stem Cell มีวิธีอย่างไรบ้าง?
1. การให้ Stem Cell ของตัวเราเอง ซึ่งเป็นการเก็บ Stem Cell ของตัวเราเองและเพาะเลี้ยงไว้ จากนั้นก็นำมาฉีดให้ตัวเอง แต่เป็นการให้ Stem Cell ที่ไม่ดีมากนัก เพราะเวลาที่เราอายุเยอะขึ้น Stem Cell ของเราก็จะเสื่อมคุณภาพลง
2. การให้ Stem Cell ที่เอามาจากของคนอื่นแล้วนำมาให้ตัวเรา ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด
3. การให้ Stem Cell แบบข้ามสปีชีส์ คือ ไม่ได้ใช้ Stem Cell ของคนแต่เป็นการเอาของสัตว์มาให้เรา เช่น การให้ Stem Cell ด้วยเซลล์แกะ แต่การให้ Stem Cell วิธีนี้ยังไม่แนะนำ เนื่องจากข้อจำกัดของวิธีการนี้ คือ อาจเกิดการแพ้สูงได้ เพราะว่าเซลล์ของสัตว์ไม่ใช่เนื้อเยื่อของคน แต่เอามาฉีดให้กับคนจึงอาจก่อให้เกิดการแพ้ที่สูงขึ้นได้
การเลือกใช้ Stem Cell ที่ดี ควรเลือกอย่างไร?
ชนิดของ Stem Cell ที่มีหลักฐานอ้างอิงแล้วว่ามีประสิทธิภาพที่ดี คือ MSC (Mesenchymal Stem Cell) แหล่งที่มาของ MSC มาได้จากหลากหลายที่ แต่แหล่งที่ดีที่สุด คือ มาจากเนื้อเยื่อของสายสะดือ ซึ่งวิธีการเลือก Stem Cell ที่ดี คือ
1. ควรเลือกจากแม่ที่มีอายุน้อย โดยจะเก็บจากสายสะดือของเด็ก แม่เด็กจึงควรมีอายุน้อย โดยอายุประมาณต้น 20 ปี แต่ไม่ควรเกิน 30 ปี ได้จะยิ่งดีที่สุด
2. ต้องปราศจากการติดเชื้อต่างๆ ไม่ว่าจะเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส สารปนเปื้อนต่างๆ
โดย Passage ที่ดีที่สุด คือ อยู่ในช่วง Passage 3-5 เมื่อเอามาแล้วจะควรต้องบอกเราด้วยว่า เหลือปริมาณชีวิตอยู่เท่าไหร่? โดยสิ่งสำคัญที่ต้องดู คือ Viability ว่าเหลือกี่เปอร์เซ็นต์ (%) (ควรจะต้องเหลือ 95% ขึ้นไปถึงจะดี)
ฉีด Stem Cell อย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด?
1. เราต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม มีไลฟ์สไตล์ที่ดี คุมเรื่องการอักเสบให้ได้ บางครั้งอาจมีการตรวจเลือดก่อน
2. การให้ Young Blood Plasma มีส่วนที่ช่วยลดการให้ปริมาณ Stem Cell ลงได้ ซึ่ง Young Blood Plasma เป็นเหมือนการให้เลือดเด็ก โดยการเอาเลือดจากสายสะดือแล้วเอาส่วนเม็ดเลือดออก เลือกเอาแต่ส่วนของ Plasma มาให้เรา
Stem Cell รักษาโรคอะไรได้บ้าง?
1. โรคหัวใจและหลอดเลือด
2. โรคทางสมอง โรคไขสันหลัง โรคระบบประสาท
3. โรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อ
4. โรคแพ้ภูมิตัวเอง
5. โรคตับ ตับแข็ง ตับอักเสบ
6. โรคปอด โดยเฉพาะโรคปอดอุดดั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease)
7. โรคเบาหวาน
อย่างที่รู้ว่า Stem Cell มีประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพร่างกายของเรา ช่วยรักษาโรคได้หลายอย่าง แต่การฉีด Stem Cell ก็ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนการตัดสินใจฉีด ควรปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อเราจะได้รับประโยชน์จากการฉีด Stem Cell ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด