8 ค่า ที่ต้องดูแล ถ้าไม่อยากเป็น “Stroke” (โรคหลอดเลือดสมอง)

โรคหลอดเลือดสมอง

“Stroke” คือ “โรคหลอดเลือดสมอง” ซึ่งก็จะมีแตก ตีบ ตัน ซึ่งจะเกิดอย่างเฉียบพลัน เมื่อเกิดแล้วโดยมากก็จะตามมาด้วยอาการอัมพฤษ์ อัมพาต ถ้าไม่อยากเกิด “Strok”e จะป้องกันได้อย่างไร? วันนี้เราจะพามารู้จักกับ 8 ค่า ที่ต้องดูแล ถ้าไม่อยากเป็นอัมพฤษ์ อัมพาต เฉียบพลันกันค่ะ ซึ่ง 8 ค่าที่จะพูดถึงนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้หลอดเลือดเสื่อม “หลอดเลือดสมองตีบ” อุดตัน เสียหาย การเกิด “Stroke” หลักๆ จึงเกิดมาจากหลอดเลือดเสื่อมสภาพนั่นเองค่ะ 

1.) ความดัน 

พบว่า 80% ของคนที่เป็น “Stroke” จะมีความดันโลหิตสูง คนที่เป็นความดันจึงควรคุมความดันให้ดี

2.) ค่ากรดยูริก 

ยูริกมีลักษณะเป็นผลึกเข็ม เวลาไปตกตะกอนหรือตกผลึกในข้อจะทำให้ปวดข้อ เป็นเกาต์ แต่ถ้ากรดยูริกสูงในเลือดก็จะไปขูดผนังหลอดเลือด ทำให้ผนังหลอดเลือดเป็นรอย เสียหาย เพราะฉะนั้นถ้าเกิดคุมยูริกให้ดี  ตัวที่จะทำร้ายหลอดเลือดของเราก็จะน้อยลง แล้วยูริกเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ความดันโลหิตสูง จึงควรคุมยูริกให้ดี (ค่ายูริกในผู้ชายควรจะต่ำกว่า 6 / ในผู้หญิงควรต่ำกว่า 5 ถึงจะปลอดภัย)

3.) ค่าไขมัน 

ตัวการที่ทำให้ “หลอดเลือดสมองตีบ” อุดตัน คือ ไขมันไปเกาะไปพอกหลอดเลือดทำให้หลอดเลือดค่อยๆ ตีบลง ดังนั้นจึงควรดูแลค่าไขมันให้ดี คิดค่าไขมันง่ายๆ โดยเอาค่าคอเลสเตอรอลรวม ÷ HDL (ไขมันดี) = ค่าไขมัน (ค่าที่ได้ไม่ควรเกิน 4 เท่า จะถือว่าระดับคอเลสเตอรอลอยู่ในเกณฑ์ที่ดี)

4.) ค่าน้ำตาลสะสม 

น้ำตาลเป็นพิษต่อหลอดเลือดโดยตรง ซึ่งน้ำตาลจะทำร้ายหลอดเลือด ถ้าเราปล่อยให้น้ำตาลสูงขึ้นในเลือดก็ทำร้ายหลอดเลือดของเรา ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานก็จะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมองสูงขึ้น เพราะฉะนั้นควรคุมน้ำตาลสะสมหรือ HbA1c ให้ต่ำกว่า 5.5 ถึงจะดี 

5.) ค่า C-Reactive Protein (CRP) 

เป็นค่าอีกตัวที่อยากให้ทุกคนได้ตรวจกัน ค่า C-Reactive Protein เป็นค่าที่บ่งบอกการอักเสบของหลอดเลือด (ถ้าหลอดเลือดเราไม่อักเสบตัวไขมันมันก็จะไม่ไปเกาะ) ค่า C-Reactive Protein ที่ดีที่สุด คือ ต่ำกว่า 0.5 (หรือค่าที่ดีควรจะน้อยกว่า 1 ก็ได้ แต่ถ้าค่าสูงเกินกว่า 3 จะมีความเสี่ยงสูงมากในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ควรระมัดระวัง) 

6.) ค่า Homocysteine 

เป็นอีกค่าที่บอกเรื่องการอักเสบของหลอดเลือด ค่านี้มีลักษณะเป็นผลึกเข็มซึ่งเวลาที่โตอยู่ในหลอดเลือดแล้วจะทำร้ายหลอดเลือดได้ ถ้าค่า Homocysteine สูง ความเสี่ยงการเกิด “Stroke” ก็จะสูงขึ้นด้วย ค่า Homocysteine ที่ดี คือ ต่ำกว่า 10 

7.) ค่าไต หรือค่า GFR 

เป็นค่าการกรองของไต ซึ่งการกรองของไตที่เริ่มมีปัญหา เริ่มมีไตวาย ที่ไม่ดีแล้ว คือ ต่ำกว่า 60 แล้วถ้าถามว่าทำไมไตไม่ดีถึงเพิ่มความเสี่ยง? เพราะว่าหากไตไม่ดีจะขับ Homocysteine ออกไม่ได้นั่นเอง

8.) ค่า BMI (ค่าดัชนีมวลกาย) 

ค่านี้ควรจะต่ำกว่า 23 จะถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เพราะว่ายิ่งเราอ้วนความเสี่ยงของการเกิดความดันโลหิตสูงก็จะยิ่งเยอะ ค่าการอักเสบต่างๆ จะยิ่งสูงด้วย เวลาที่เราอ้วนจะมีไขมันสะสมตามตัวเยอะเซลล์ไขมันก็จะสร้างสารอักเสบขึ้นมา เวลามีการอักเสบที่เยอะขึ้น ค่าการอักเสบของหลอดเลือดก็จะสูงขึ้นด้วย

หากไม่อยากเป็น “Stroke” ก็ควรคุมค่าเหล่านี้ให้ดี อีกอย่าง คือ ควรงดสูบบุหรี่ด้วย เพราะบุหรี่เป็นตัวการที่ทำให้หลอดเลือดเสื่อมมากที่สุด เพราะฉะนั้นเมื่อคุม 8 ค่านี้ให้ดีแล้ว ก็ควรคุมเรื่องการสูบบุหรี่ด้วย ถ้าเลิกได้ก็จะดีที่สุด เพราะคงไม่มีใครอยากเป็น Stroke การดูแลสุขภาพให้ดีอยู่เสมอๆ จึงสำคัญ เพื่อชีวิตที่ยืนยาวและแข็งแรงนะคะ : ) 

 

ดูวิดีโอเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/drcanthelp/videos/1407921973295187

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *