สัญญาณเตือนก่อน “เส้นเลือดสมองตีบ แตก ตัน”

เส้นเลือดในสมองแตก

“Stroke” คือ โรคหลอดเลือดสมอง” ที่แตกเฉียบพลัน หรือโรคอันเป็นสาเหตุของอาการอัมพาต เป็นภัยเงียบอันตรายที่หากเกิดขึ้นกับใครแล้วอาจส่งผลรุนแรงต่อชีวิตอย่างคาดไม่ถึง อาจทำให้ผู้ป่วยต้องพิการ ปากเบี้ยว ตาบอด หรือสูญเสียการทำงานของสภาพร่างกายไปโดยคาดไม่ถึง ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคนี้เป็นจำนวนถึงประมาณ 500,000 คน ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างมากสำหรับทุกคนที่จะรู้จักสัญญานเตือนของ “โรคหลอดเลือดสมอง” เพื่อทำการรักษาให้ทันท่วงทีก่อนที่จะเกิดอันตรายที่สายเกินแก้

“โรคหลอดเลือดสมอง” เกิดเนื่องมาจากความดันโลหิตที่สูงผิดปกติ ทำให้หลอดเลือดเปราะแตก พอเลือดเปราะแตกแล้วเนื้อสมองโดยรอบก็ตาย พอเนื้อสมองตายก็ส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆทำให้สูญเสียสมรรถภาพในการทำงาน เป็นอัมพาต หรือรุนแรงที่สุดก็คือเสียชีวิต มักเกิดกับคนวัยกลางคน คนที่เป็นโรคเบาหวาน คนที่มีน้ำหนักตัวมากเกินมาตรฐาน คนที่สูบบุหรี่จัด ความดันโลหิตสูง มีการดำเนินชีวิตไม่ถูกต้อง หรือกลุ่มคนทำงาน ที่มีความเครียดสูง

“โรคหลอดเลือดสมอง” มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่หัวใจทำงานหนักผิดปกติ เช่น เหนื่อย เครียด ไม่ได้พักผ่อนเป็นเวลานาน หรือได้รับเรื่องสะเทือนใจอย่างรุนแรงเข้ามากระทบ คล้ายๆ กับอาการ Heart attack แต่เป็นอาการของ Brain attack แทน

โรคหลอดเลือดสมองแตกเฉียบพลันหรือ “อาการ Stroke” เบื้องต้น

  1. มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง
  2. ตาพร่ามัวข้างหนึ่งโดยไม่ทราบสาเหตุ
  3. มีอาการชาครึ่งซีก หรือขยับแขนขาข้างหนึ่งไม่ได้
  4. แขนขาอ่อนแรง เดินเซ การทรงตัวไม่ดี
  5. หน้าหรือปากเบี้ยว
  6. เริ่มขาดความสามารถในการสื่อสารพูดหรือฟังไม่เข้าใจ
  7. กลืนอาหารไม่ได้

เมื่อเกิดอาการเหล่านี้เพียง 3 ใน 4 กลุ่มอาการข้างต้นให้รีบไปพบแพทย์และแจ้งอาการดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ทันที หรือหากเกิดอาการหลอดเลือดสมองแตกขึ้นแล้ว มีอาการตาบอดข้างหนึ่งหรือเป็นอัมพาต สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้ารับการรักษาแบบฉุกเฉินได้โดยไม่ต้องรอคิวเหมือนกับการรักษาโรคอื่นๆ

“โรคหลอดเลือดสมองแตก” หากได้รับการรักษาทันท่วงทีภายใน 2 – 4 ชม. หลังจากเกิดอาการจะสามารถหายเป็นปกติได้ แต่หากทิ้งไว้นานเท่าไหร่ ความสามารถในการรักษาให้กลับมาเป็นปกติของแพทย์ก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น

เมื่อเกิด “อาการ stroke” ในกระบวนการรักษาผู้ป่วยจะต้องพักฟื้นตัวเอง หยุดการทำงาน หรือรับแรงกดดันทางจิตใจ ที่อาจทำให้เกิดความเครียดและจะส่งผลต่อความดันเลือดอีก การพักผ่อนและการนอนนิ่งๆจะช่วยให้หลอดเลือดสามารถฟื้นฟูตัวเองให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

เราสามารถป้องกันไม่ให้เกิด “อาการ stroke” ได้ด้วยการมีระเบียบวินัยในการดูแลรักษาสุขภาพของตัวเอง ดังนี้ค่ะ

         – ดื่มน้ำมากๆ วันละ 3 ลิตรต่อวัน

         – อย่ารับประทานอาหารมัน ทอด อาหารที่มีไขมันสูง

         – ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอวันละ 30 นาที ทุกวัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *